ตำรวจบราซิลสรุปเหตุคนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนจี้นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติสหรัฐอเมริกา 4 คนในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 31 ริโอเกมส์ ตามที่นักกีฬาระบุว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งในรายงานสรุปคดี พนักงานสอบสวนระบุว่าทั้ง 4 คนไม่ได้เป็นผู้เสียหายจากคดีอาญา ทั้งนี้ นักกีฬาว่ายน้ำทีมอเมริกา ระบุว่า พวกเขาถูกปล้นในรถแท็กซี่ระหว่างการเดินทางจากที่พักนักกีฬาทีมฝรั่งเศส กลับมาที่หมู่บ้านนักกีฬา แต่คำบอกเล่าของพวกเขาไม่ตรงกันหลายเรื่อง ศาลจึงมีคำสั่งให้ตำรวจยึดพาสปอร์ตของทั้ง 4 คนไว้ก่อน แต่ต่อมาพบว่า ไรอัน ลอชต์ เดินทางกลับอเมริกาแล้วในวันถัดมา ส่วนกุนนาร์ เบนซ์กับแจ็ค คอนเกอร์ พยายามจะเดินทางกลับเช่นกันแต่ก็ถูกควบคุมตัวลงมาจากเครื่องบินที่สนามบินริโอ และเจมส์ เฟเก้น ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเขากลับสหรัฐไปพร้อมกับลอชต์ แท้ที่จริงเขายังอยู่ที่บราซิลและให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนเป็นอย่างดี
ในรายงานของตำรวจบราซิลระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์นักกีฬาเปลี่ยนคำให้การหลายครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น และในเวลานั้นลอชต์ก็เมามาก อย่างไรก็ตามการกระทำของนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติสหรัฐอเมริกา ทำให้ชาวเมืองริโอไม่พอใจ เนื่องจากเดิมริโอก็เป็นเมืองใหญ่ที่มีเหตุอาชญากรรมในระดับสูง ทางการจึงให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารเพื่อรักษาความปลอดภัย แต่เมื่อนักกีฬาสหรัฐ แจ้งว่าเขาถูกปล้นก็ยิ่งทำให้ทุกคนมีความกังวล จากนั้นเมื่อเรื่องเปิดเผยออกมาว่าเป็นการโกหก ชาวเมืองริโอก็รู้สึกโกรธ
โดยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สื่อของสหรัฐรายงานข่าวนี้เป็นแห่งแรก โดยอ้างคำเปิดเผยของมารดาของลอชต์ ว่าลูกชายถูกปล้นที่ริโอ จากนั้นจึงมีการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนมาถึงล่าสุดที่ตำรวจบราซิล ระบุว่า หลังจากที่ออกมาจากที่พักนักกีฬาฝรั่งเศส ทั้ง 4 คนแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมัน แต่มีอยู่คนหนึ่งเปิดระตูห้องน้ำไม่ออก เพื่อนในทีมจึงช่วยพังประตู เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงมาดูเหตุการณ์ โดยเจ้าหน้าที่มีอาวุธปืนประจำกายจริง แต่ไม่ได้นำออกมาใช้ ส่วนเจ้าของปั๊มน้ำมันเรียกค่าเสียหาย และทั้ง 4 คนก็ยอมจ่ายเงินด้วยดี
..
F163