ผบ.ตร.รับศาลทหารออกหมายจับ17ผตห.นปป.ย้ำไม่เกี่ยวเหตุระเบิด7จว.ใต้

18 สิงหาคม 2559, 18:52น.


หลังศาลทหาร กรุงเทพฯ อนุมัติหมายจับตามคำร้องของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เลขที่ จพ 29/2559 ทำผิดในมาตรา 209  ตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา ข้อหาการกระทำผิดอั้งยี่ และฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 ว่าด้วยการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานในเรื่องนี้แล้ว เป็นเรื่องของแนวคิดต่อต้านการเมือง ของกลุ่มแนวร่วมปฏิวัติประชาธิปไตย (นปป.) ยืนยันว่าการออกหมายจับครั้งนี้ กลุ่มนปป. ไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ใน 7 จังหวัดภาคใต้ เป็นคนละเรื่องกัน แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป



ส่วนกรณีที่บางรายมีพฤติการณ์มีการสะสมอาวุธนั้นยังไม่ทราบว่าเอาอาวุธไปทำอะไรก็ต้องสืบสวนต่อไป ทั้งนี้ที่ผ่านมากลุ่มนี้เคลื่อนไหวทางการเมืองมาตลอด รวมทั้งในช่วงการออกเสียงประชามติด้วย ซึ่งก็เป็นแนวคิดของกลุ่มนี้อยู่แล้ว ในขั้นนี้หากการสืบสวนขยายผลไปถึงใครที่เป็นแนวร่วมกลุ่มนี้ก็ต้องจับกุมเพิ่มเติม ส่วน 2 รายที่เป็นตำรวจนั้น ไม่ต้องห่วง ตัวเองมีวิธีการดำเนินการ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำในส่วนนี้เอง



สำหรับ เหตุระเบิดและเพลิงไหม้ใน 7 จังหวัดภาคใต้ที่เกิดขึ้นยังไม่พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองอื่นใด พร้อมยืนยันว่าการจับกุมกลุ่มดังกล่าวไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณหรือกดดันไปยังกลุ่มการเมือง และยืนยันมาตลอดว่าใครที่จะมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่ซุ่มเสี่ยงต่อข้อกฎหมาย ก็ต้องหลีกเลี่ยง



ด้านพล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับบุคคลในเบื้องต้น 17 ราย ซึ่งเรียกว่านปป. โดยพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้และมีการสืบสวน พร้อมทั้งแจ้งไปยังฝ่ายความมั่นคงว่ากลุ่มนี้มีการรวมตัวกัน มีแนวคิดทางการเมือง ล้มล้าง และต่อต้านการปกครองของรัฐบาล เบื้องต้นเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดจริง จึงยื่นคำร้องให้ศาลทหารเพื่ออนุมัติหมายจับทั้ง 17 คน ในความผิดฐานชุมนุมในพื้นที่สาธารณะเกิน 5 คน  และอั่งยี่ซ่องโจร บางคนอาจจะมีความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 บางคนอาจจะมีความผิดเกี่ยวกับอาวุธสงคราม และพรุ่งนี้เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดที่ควบคุมตัวไว้ไปมอบให้ตำรวจกองปราบปรามเพื่อดำเนินคดีต่อไป



ผู้ต้องหาทั้ง 17 คน ประกอบด้วย ด.ต.ศิริรัตน์ มโนรัตน์ อายุ 71 ปี ชาว จ.พัทลุง, นายวีระชัฏฐ์  จันทร์สะอาด อายุ 62 ปี ชาวจ.ททบุรี, นายประพาส โรจนพิทักษ์ อายุ 67 ปี ชาวจ.ตรัง, นายปราโมทย์ สังหาญ อายุ 63 ปี ชาว จ.สตูล, นายสรศักดิ์ ดิษปรีชา อายุ 49 ปี ชาว.กทม., นางสาวมีนา แสงศรี อายุ 39 ปี ชาว กทม., นาย ศิริฐาโรจน์ จินดา อายุ 56 ปี ชาว จ.หนองคาย, ร.ต.ต. หญิง วิลัยวรรณ คูณสวัสดิ์ อายุ 54 ปี ชาวจ.หนองคาย, นายชินวร ทิพย์นวล อายุ 71 ปี ชาวจ.เชียงราย, นายณรงค์ ผดุงศักดิ์ อายุ 60 ปี ชาวจ.อ่างทอง, ร.ต.ท.สมัย คูณสวัสดิ์ อายุ 57 ปี ชาวจ.หนองคาย, นายศรวัชษ์ กุระจินดา อายุ 60 ปี ชาว จ.มหาสารคาม, นายเหนือไพร เซ็นกลาง อายุ 41 ปี, นายวิเชียร เจียมสวัสดิ์ อายุ 59 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช, นายบุญภพ เวียงสมุทร อายุ 61 ปี ชาวจ.เชียงราย, นางสาวรุจิยา เสาสมภพ อายุ 52 ปี ชาวจ.ร้อยเอ็ด, นายวิโรจน์ ยอดเจริญ อายุ 67 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช



สำหรับผู้ต้องหาที่อยู่ในการควบคุมตัวของทหารที่กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ. 11) ทั้งหมด 15 คน อีก 2 คน คือ ร.ต.ต. หญิง วิลัยวรรณ คูณสวัสดิ์ อายุ 54 ปี ชาวจ.หนองคาย และร.ต.ท.สมัย คูณสวัสดิ์ อายุ 57 ปี ชาวจ.หนองคายเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวกลับไปแล้วเนื่องจากในตอนแรกพยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการขอศาลอนุมัติหมายจับ แต่หลังจากปล่อยตัวไปกลับพบพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่ชี้ชัดว่าเป็นผู้กระทำผิด

ข่าวทั้งหมด

X