ผู้รับเหมาก่อสร้างสตูดิโอ ของวัดพระธรรมกายให้ปากคำDSI หลังรับเช็คจากสหกรณ์ฯยูเนี่ยน

การดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น พ.ต.ท.บัณฑูรย์ ฉิมกรา ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากที่ นางกัลยาณี งามขำ เจ้าของบริษัทไทยสมาร์ท อินเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่รับเหมาก่อสร้างสตูดิโอ สถานีวิทยุโทรทัศน์ ดีเอ็มซี ที่ตั้งอยู่ภายในสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เข้าให้ปากคำ เมื่อวันที่16 สิงหาคม ว่า ได้รับการว่าจ้างจากพระมนตรีซึ่งเป็นพระลูกวัดในวัดพระธรรมกาย เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จได้รับเงินค่าจ้างผ่านการโอนเข้าบัญชี จำนวนประมาณ4ล้านบาท ซึ่งจากการพูดคุยกับนางกัลยาณียังไม่พบความเชื่อมโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเป็นลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายหรือไม่

จากการตรวจสอบพบว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้สั่งจ่ายเช็คจำนวน3ฉบับ เพื่อเป็นการก่อสร้างสตูดิโอ โดยฉบับแรกสั่งจ่าย 2ล้าน5แสนบาท ให้กับบริษัท ไทยสมาร์ท อินเตอร์เทรด จำกัด และบริษัทรับเหมารายอื่น ฉบับที่สองสั่งจ่าย2ล้านบาทให้กับบริษัท ไทยสมาร์ท อินเตอร์เทรด จำกัด และบริษัทรับเหมารายอื่น รวมถึงมีการสั่งจ่ายให้กับพระเชิดศักดิ์ ซึ่งเป็นพระในวัดพระธรรมกาย และฉบับที่สามสั่งจ่าย 2ล้าน5หมื่นบาท ให้กับบริษัทไทยสมาร์ท อินเตอร์เทรด จำกัด และพระมนตรี ที่เป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งเช็คทั้ง3ฉบับนั้น เป็นส่วนหนึ่งในจำนวนเช็คทั้ง 878 ฉบับของคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนของจั่นด้วย

พันตำรวจโทบัณฑูรย์ระบุว่า จะต้องมีการขยายผลและเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงการรับเงินจากเช็คทั้งสามฉบับนี้  และในวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม เวลา 10.00 น. นายสัมพันธ์เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีสมคบกันฟอกเงินร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจรจะมาให้ปากคำ ที่สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรณีบริษัท เอ็ม-โฮมเอสพีวี 2 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่นายศุภชัยนำเงินจากสหกรณ์ฯมาซื้อหุ้น และโอนไปให้บุคคลอื่นถือหุ้นแทน เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการเข้าข่ายการฟอกเงิน