หลังเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่การกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกับ ประเทศมาเลเซียมาโดยตลอด ซึ่งมีความคืบหน้าและความชัดเจนไปมาก แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานกันก่อน อย่าพึ่งกดดัน ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยอยู่ในระหว่างการหารือว่าจะทำอย่างไรบ้าง รวมถึงงานด้านการข่าวที่มีแนวโน้มเรื่องการก่อเหตุบ้าง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งเราก็เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ เพราะได้ประสานงานด้านข่าวกับทหารและตำรวจ
ส่วนการจับกุมตัวนายศักรินทร์ คฤหัสถ์ ผู้ต้องสงสัยวางเพลิงโลตัสนครศรีธรรมราชนั้น ยืนยันว่าไม่จับผิดตัวแน่นอน เนื่องจากดูข้อมูลจากกล้องวงจรปิด แต่จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนด้วย ยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องความร่วมมือของประชาชนที่จะแจ้งเบาะแส เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานได้ทั้งหมด อีกทั้งสื่อมวลชนไม่ควรสัมภาษณ์บุคคลอื่นจนก่อให้เกิดความวุ่นวาย เพราะตนเองก็ได้ให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงมาโดยตลอด
สำหรับการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี2559 พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะมีแค่ตำแหน่งเดียวที่ต้องปรับ คือ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ( ผบ.พล.ร.4) ซึ่งเป็นตำแหน่งของ พลตรีนพพร เรือนจันทร์ ที่เสียชีวิตระหว่างเดินทางไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่13สิงหาคม ซึ่งต้องให้พลเอกธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้ดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ พลเอกประวิตร ยังกล่าวถึงการเพิ่มเงินอัดฉีดแก่นักกีฬาโอลิมปิกนั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งหากนักกีฬาต้องการเข้ารับเป็นข้าราชการทหาร หรือตำรวจก็ยินดีสนับสนุน สำหรับประเภทกีฬาที่ไม่ได้รับเหรียญรางวัลก็จะต้องให้ทางสมาคมกีฬาหาบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาช่วยปรับปรุง โดยส่วนตัวมองว่าประเภทกีฬาที่ไม่ได้รับเหรียญรางวัลก็ไม่ถือว่าล้มเหลว และทุกคนต้องให้กำลังใจนักกีฬา เพราะแม้การแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้อาจจะพลาดเหรียญรางวัลไป แต่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ในการแข่งขันครั้งหน้า