ความคืบหน้าเหตุวินาศกรรมใน 7 จังหวัดภาคใต้
พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด 14 ราย เป็นชาวไทย 9 ชาวต่างชาติ 5 ราย โดยอยู่ในอาการไม่น่าเป็นห่วง ส่วนความคืบคดี พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน มีความคืบหน้าร้อยละ 70 โดยในการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้ายต่อไปนั้น มีการสอบสวนสอบปากคำพยานไปหลายปาก และจะมีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป แต่ขณะนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพียง 1 ราย จากจังหวัดภูเก็ต
ส่วนมาตรการความปลอดภัย ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานด้วยความเข้มแข็ง ระวังเหตุอย่างเนื่องโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีคนอยู่มาก ให้เพิ่มจุดสกัดเพื่อคัดกรองบุคคล สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงติดตามรายงานอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ประชาชน มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และดำเนินชีวิตตามปกติ พร้อมช่วยกันดูแลหากพบวัตถุต้องสงสัย ให้แจ้งมาที่เจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการให้ข้อมูลเรื่องคนร้ายนั้น พันตำรวจเอก กฤษณะ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับเรื่องการให้ข่าว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และมีความละเอียดอ่อน จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลบางอย่างได้ เพราะจะเสียรูปคดี
ด้านพลตำรวจตรีปิยะพันธ์ ปิงเมือง โฆษกสำนักตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า เหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ เป็นเหตุวินาศกรรมเฉพาะพื้นที่ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการก่อกวน และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์เมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งเหตุความไม่สงบ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ ไม่มีการเจาะจงผู้ก่อเหตุไปที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยจะมีการตรวจสอบจากพยานหลักฐาน และขยายผล ไปยังเหตุการณ์อื่นต่อไป ส่วนที่มีการออกหมายจับผู้ต้องหารายที่สอง โดยพบหลักฐานเป็นดีเอ็นเอเกี่ยวดยงกับเหตุการณ์ในปี 2547 พลตำรวจตรีปิยะพันธ์ กล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากเป็นรายละเอียดในสำนวน และขอให้ฟังข้อมูลจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติที่จะรายงานทุกระยะ
ส่วนในวันนี้ ที่ครบรอบ 1 ปี เหตุระเบิดบริเวณศาลพระพรหมแยกราชประสงค์ ยืนยันว่ายังไม่ได้ปิดคดี ขณะนี้ยังคงติดตามหาผู้ก่อเหตุ ที่หลบหนีดำเนินคดีอยู่ ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้
..
ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม