กรณีพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนสอบสวนคดีที่ พันโทรัฐเขต แจ้งจำรัส กรรมาธิการพลังงานวุฒิสภาร้องทุกข์กล่าวโทษว่า บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ลักลอบขุดเจาะน้ำมันดิบในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร โดยเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557 ซึ่งพันโทรัฐเขต ได้ให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าวว่า การลงพื้นที่เป็นการดำเนินการ เพื่อบุกจับการขุดน้ำมันดิบขาย ซึ่งได้แอบดำเนินการมาแล้ว 5 ปี และมีการหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าภาคหลวง ส่งผลให้ประเทศสูญเสียรายได้ซึ่งเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศมากมาย ข้อมูลนี้คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงเป็นอย่างมาก
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ของผู้รับสัมปทานปิโตรเลียม ยืนยันว่า ประเด็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยบริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (สัญชาติฮ่องกง) เป็นผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมตามพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ที่มีสิทธิในการดำเนินงานในการประกอบกิจการด้านปิโตรเลียมในพื้นที่ผลิตสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 3/2546/60 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L44/43 และสัมปทานเลขที่ 5/2546/62 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L33/43 โดยแหล่งดังกล่าวเคยมีอัตราการผลิตสูงสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2551 คือ 12,500 บาร์เรลต่อวัน ต่อมาอัตราการผลิตลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบของหลุมในแหล่งส่วนใหญ่ได้มาจากชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียมที่เป็นหินภูเขาไฟ ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถกักเก็บน้ำมันดิบได้น้อย รวมถึงการประสบปัญหาในการผลิตน้ำในอัตราสูงจนเป็นเหตุให้ต้องปิดหลุมผลิตบางส่วน
สำหรับกรณีข้อมูลการใช้ประโยชน์ในที่ดินของ ส.ป.ก. มีรายละเอียด คือ เมื่อวันที่
16 ธันวาคม 2552 บริษัทได้รับอนุมัติพื้นที่ผลิตบ่อรังเหนือ จำนวน 39.39 ตารางกิโลเมตร ซึ่งบางส่วนมีเนื้อที่ประมาณ 43 ไร่ 3 งาน 35 ตารางวา อยู่ในเขตที่ดินของ ส.ป.ก. ท้องที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยฐานผลิต จำนวน 6 ฐาน เมื่อบริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตกรรม (ส.ป.ก). ว่าพื้นที่ผลิตทั้ง 6 ฐาน ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ของ ส.ป.ก. จึงได้หยุดทำการผลิตโดยทันที
หลังจากนั้นได้มีการตรวจสอบจาก ส.ป.ก.และมีหนังสือที่ พช 0011/1017 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2555 แจ้งว่า พื้นที่ L44-V ไม่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน บริษัทฯ จึงเริ่มผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ L44-V เพียงแหล่งเดียวอีกครั้ง คือ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2555 ปัจจุบันมีอัตราการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยประมาณ 142 บาร์เรลต่อวัน (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2557) ซึ่งในการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557 ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งดังกล่าวด้วย แต่ในการนำเสนอข้อมูลมิได้นำข้อเท็จจริงจากการลงตรวจสอบพื้นที่มานำเสนอแต่อย่างใด