ธปท.จับตาเอ็นพีแอลธนาคารรัฐ/จีดีพีไตรมาสแรกดีเกินคาด/กกพ.เตรียมประกาศค่าไฟฟ้าฐานใหม่*

16 สิงหาคม 2559, 08:26น.


เศรษฐกิจวันนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย จับตาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ เอ็นพีแอลธนาคารรัฐอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่ง นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า เอ็นพีแอล ในภาพรวมมีแนวโน้มขยับขึ้นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไปตามฤดูกาล เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตก็จะมีการมาจ่ายหนี้คืนมาก แต่พอถึงฤดูการเพาะปลูกก็จะมาขอสินเชื่อใหม่ทำให้เอ็นพีแอลขึ้นลงตามฤดูกาล ขณะที่ธนาคารรัฐอื่นๆ อาจมีเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น ในกลุ่มสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรายย่อยส่วนบุคคล โดยรวมแล้ว มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 6 ของสินเชื่อรวม



สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาพรวมผลการดำเนินงานของระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ล่าสุด ในเดือน เมษายน สินเชื่อทั้งระบบมียอดคงค้างอยู่ที่ 4 ล้าน 1 แสน 5 หมื่นล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวที่ร้อยละ 4.4 ชะลอลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 5 แต่เป็นอัตราการขยายตัวที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เอ็นพีแอลของสถาบันการเงินรัฐทั้งระบบอยู่ที่ 2 แสน 5 หมื่น 1 พันล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.9 ของสินเชื่อรวม ส่วนสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ที่เป็นการผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 3 เดือนนั้น โดยรวมมียอดอยู่ที่ 1 แสน 3  หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3 ของสินเชื่อรวม ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน



เงินฝากของสถาบันการเงินรัฐทั้งระบบมี 4 ล้าน 2 แสน 6 หมื่นล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8 เป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่โตร้อยละ 3.6 ส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอส) โดยเฉลี่ยของทุกธนาคารอยู่ที่ร้อยละ 12.2 สูงกว่าเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนดไว้ที่ร้อยละ 8.5



นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ขยายตัวเกินความคาดหมายที่ร้อยละ 3.5 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 3.2 เป็นผลมาจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือน การลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่อง เช่นเดียวกับภาคการผลิต โดยเฉพาะสาขาเกษตรกรรมปรับตัวดีขึ้นจากเดิมที่ติดลบร้อยละ 1.4 ในไตรมาสก่อนมาเป็นขยายตัวร้อยละ 0.1 ส่งผลให้ภาพรวมครึ่งแรกของปีนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 3.4 ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์ปรับดีขึ้น โดยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งปี จะอยู่ที่ร้อยละ 3-3.5



ในเดือนกันยายนนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เตรียมจัดทำแผนส่งออกปี 2560 ซึ่งนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 7-11 กันยายนนี้ เป็นช่วงที่มีการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ จึงจะจัดประชุมกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ทั่วโลก เพื่อร่วมกันวางแผนและยุทธศาสตร์การส่งออก เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาประเทศไทยแลนด์ 4.0 และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีรวมทั้งจะมีการประเมินสถานการณ์การส่งออกในภาพรวมของปีหน้า เพื่อกำหนดเป้าหมายตัวเลขการส่งออกที่ชัดเจนอีกครั้งในช่วงปลายปี 2559



นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เสนอรายละเอียดร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบแล้ว ขึ้นอยู่กับเลขาธิการ ครม.จะบรรจุวาระพิจารณาเห็นชอบเมื่อไรเท่านั้น โดยสาระสำคัญของกฎหมายจะบังคับให้ผู้ประกอบการทุกรายตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับลูกจ้าง  โดย กบช.จะเริ่มบังคับในปี 2561 ซึ่งจะบังคับใช้กับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 รายขึ้นไปก่อน เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยจะให้นายจ้างและลูกจ้างจ่ายสมทบเงินเข้ากองทุนฝ่ายละร้อยละ 3 ใน 3 ปีแรก และจะเพิ่มเป็นฝ่ายละร้อยละ 5 และร้อยละ 7 ในช่วงเวลาต่อไป



นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กำลังศึกษาการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่ปี 2560-63 เพื่อให้มีการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ เงินลงทุน โดยต้องคำนึงถึงผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้ประกอบกิจการ โดยปัจจุบันยังเป็นการใช้ในอัตราของการปรับครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 โดยมีราคาที่ 3.7556 บาทต่อหน่วย ซึ่งมาจากค่าไฟฐานเดิม บวกกับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เดิม และลบกับการทบทวนรายได้ของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง โดยจะมีการพิจารณาและประกาศในวันพรุ่งนี้



ข่าวอาชญากรรม เมื่อวานนี้ น.ส.ญาดาภา ลักษณัย อายุ 73 ปี อดีตข้าราชการครูบำนาญ  เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมนางมณตา หยกรัตนกาญจน์ หรือนางไก่ อายุ 58 ปี อีก 2 คดี คือฉ้อโกงเงิน 8 แสนบาท ที่นางมณตาหลอกว่าจะนำไปลงทุน และคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อผู้เสียหายไปทวงใบสัญญาซื้อขาย และในวันนี้ผู้เสียหายจะเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนที่กองปราบปราม



ส่วนคดีฆาตกรรม นายภาสพล รัตนตยาธิคุณ อายุ 45 ปี ซึ่งมีผู้พบศพข้างถนนสายกาฬสินธุ์-สกลนคร เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถคลี่คลายคดีพร้อมติดตามจับผู้ก่อเหตุและผู้บงการ 5 คนซึ่งรวมถึง นายวิรัช อายุ 73 ปี บิดาของผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้จ้างวานฆ่า เมื่อวานนี้ ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์มีการประชุมสรุปสำนวนคดี และจะสรุปสำนวนคดีส่งให้กับอัยการ จ.กาฬสินธุ์ ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตามคดีนี้ ยังผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คนที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี



ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) แจ้งว่า ในระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในบางพื้นที่ของจังหวัดน่าน และพะเยา ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเพิ่มความระมัดระวัง โดยที่จังหวัดน่านประกาศภัยพิบัติ 6 อำเภอ มีผู้เสียชีวิต 1 คน



..

ข่าวทั้งหมด

X