จลาจลต้านตำรวจอเมริกันเข้าสู่คืนที่2/คลังสมองเตือนนิวเคลียร์สหรัฐที่ฐานทัพตุรกี

16 สิงหาคม 2559, 06:28น.


สถานการณ์ในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกายังตึงเครียด เมื่อผู้ที่ไม่พอใจการทำหน้าที่ของตำรวจยังชุมนุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ทั้งนี้ ตำรวจมิลวอกี วิสามัญฆาตกรรมนายซิลวิลล์ สมิธ ชายผิวสีอายุ  23 ปี ในย่านเชอร์แมน พาร์ค แม้ตำรวจจะมีภาพและหลักฐานยืนยันว่า นายสมิธมีอาวุธและพยายามหลบหนีการจับกุม  แต่เหตุรุนแรงที่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ก็ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก บ้านเรือน ร้านค้าหลายแห่งถูกวางเพลิงหรือบุกปล้น



การเคลื่อนไหวต่อต้านการทำหน้าที่ของตำรวจอเมริกันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความไม่พอใจที่ตำรวจวิสามัญ หรือใช้ความรุนแรงในการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยผิวสี และไม่มีอาวุธ โดยมีคนร้ายที่ตอบโต้ด้วยการลอบยิงตำรวจเสียชีวิตแล้วหลายนาย



ส่วนที่อินเดีย เมื่อวานนี้เป็นวันที่ระลึกการประกาศเอกราชจากเจ้าอาณานิคมอังกฤษ แต่เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจอาสาที่แคว้นแคชเมียร์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น 2 จุด จุดแรกมีตำรวจอาสาบาดเจ็บ 7 คน จุดที่สองซึ่งอยู่ใกล้กันมีตำรวจอาสาบาดเจ็บ 3 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่มีอาการสาหัส 3 คน



ทั้งนี้ แคชเมียร์ประกาศเคอร์ฟิวเกือบทั่วแคว้นมาตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม เนื่องจากมีการชุมนุมประท้วงเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญผู้นำกลุ่มกบฏ และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 ราย บาดเจ็บอีกนับพันคน นับเป็นเหตุรุนแรงที่สุดของแคชเมียร์ในรอบ 9 ปี



กลุ่มสทิมสัน เซนเตอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมองในวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา นำเสนอรายงานเตือนรัฐบาลสหรัฐว่า ระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาประมาณ 50 ลูกที่จัดเก็บอยู่ในฐานทัพอินซีร์ลิก ของตุรกีใกล้ชายแดนซีเรีย กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกผู้ก่อการร้าย หรือกองกำลังฝ่ายตรงข้ามบุกยึดและนำไปใช้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการแจ้งเตือนมาแล้วหลายครั้ง แต่ถูกนำมาพูดถึงกันมากขึ้นเมื่อมีความพยายามรัฐประหารตุรกีเมื่อเดือนก่อน และมีผู้บัญชาการทหารตุรกีที่ดูแลฐานทัพอากาศแห่งนี้ถูกจับกุมด้วย



ฐานทัพอินซีร์ลิกเป็นฐานทัพสำคัญของกลุ่มกองทัพนานาชาติที่นำโดยอเมริกา ในการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ในอิรักและซีเรีย แต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศให้ครอบครัวทหารและเจ้าหน้าที่พลเรือน อเมริกันที่ประจำอยู่ทางใต้ของตุรกีอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากความกังวลว่าจะไม่มีความปลอดภัย



ส่วนเหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมหลายรัฐทางใต้ของสหรัฐอเมริกา โดยที่รัฐลุยเซียนา สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คนสูญหาย 1 คน เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วกว่า 7,000 คน



ที่จีน เกิดเหตุดินถล่มฝังรถบัสนำเที่ยวในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ โดยเหตุเกิดบนทางหลวงของเมืองหลงหยาน ทำให้รถพลิกคว่ำ และมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 1 คนบาดเจ็บ 22 คน ในกลุ่มนี้ เป็นผู้ที่มีอาการสาหัส 2 คน



รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ชี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นแทบไม่มีการเติบโตเลยในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนซบเซา ซึ่งยิ่งกดดันให้ นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ และธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือบีโอเจ ต้องเร่งหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม



ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ จีดีพี ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนขยายตัวในอัตราเฉลี่ย ต่อปีเท่ากับร้อยละ 0.2 จากที่ไตรมาสแรกอยู่ในระดับร้อยละ 1.9  โดยเมื่อต้นเดือน นายกรัฐมนตรีพยายามรื้อฟื้นมาตรการอาเบะโนมิกส์เพื่อต่อสู้ภาวะเงินฝืด ด้วยการเสนอมาตรการริเริ่มในการใช้จ่ายมูลค่า 267,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจใช้จ่ายเงินมากขึ้นและสนับสนุนการฟื้นตัว นอกจากนี้ บีโอเจยังประกาศเพิ่มการรับซื้อสินทรัพย์จากสถาบันการเงินเพื่อเป็นการอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบ และสานต่อ เป้าหมายให้อัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นเป็นร้อยละ 2



ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น หลังรัสเซียจะมีความร่วมมือกับโอเปกในการตรึงกำลังผลิต สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 59.58 จุด หรือร้อยละ 0.32 ปิดที่ 18,636.05 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.10 จุด หรือร้อยละ 0.28  ปิดที่ 2,190.15 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 29.12 จุด หรือร้อยละ 0.56  ปิดที่ 5,262.02 จุด       



ที่เกาหลีใต้ ชาวเมืองซองจู ราว 900 คน พากันโกนผมประท้วงการตัดสินใจของรัฐบาล ที่จะติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธไฮเทคทาด (THAAD) ของสหรัฐฯ ในแถบเมืองของพวกเขา โดยอ้างว่าเพื่อรับมือภัยคุกคามจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ



สำนักงานการบินพลเรือนแห่งอินโดนีเซีย เปิดเผยว่าได้รับจดหมายยืนยันจากสำนักงานบริหารการบิน (เอฟเอเอ) แห่งสหรัฐอเมริกา ว่าอุตสาหกรรมการบินของอินโดนีเซียเข้าสู่มาตรฐานการบินระหว่างประเทศและมีระดับความปลอดภัยเพิ่มขึ้น จึงสามารถนำเครื่องบินของสายการบินในอินโดนีเซียบินเข้าสหรัฐอเมริกาได้ทุกสายการบิน ปลดล็อกคำสั่งห้ามนำเครื่องบินสัญชาติอินโดนีเซียเข้าสหรัฐ อเมริกาตั้งแต่ปี 2550



หนังสือพิมพ์เวียดนามอีโคโนมิกไทมส์รายงานว่า สมาคมอาหารเวียดนามปรับลดคาดการณ์การส่งออกข้าวประจำปีนี้เป็น ครั้งที่ 2 จาก 5 ล้าน 7 แสนตัน ที่คาดไว้เมื่อเดือนมิถุนายน เหลือเพียง 4 ล้าน 7 แสน 5 หมื่นตัน ซึ่งเป็นตัวเลขส่งออกต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี เนื่องจากความต้องการซื้อจากต่างประเทศลดลง และไทยขายข้าวเพิ่มขึ้น



กลุ่มที่ปรึกษาชางไห่ แรงกิ้ง (Shangha Ranking Consultancy) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ เปิดเผยผลการจัดอันดับทางวิชาการของมหาวิทยาลัยโลกประจำปี ปรากฏว่า มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนได้เข้ามาอยู่ใน 100 อันดับเป็นครั้งแรก โดยมหาวิทยาลัยชิงหัวอยู่ในอันดับที่ 58 และมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่อยู่ในอันดับ 71 ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยฮาร์ดวาร์ด ในสหรัฐอเมริกา ยังคงครองอันดับหนึ่งเป็น ปีที่ 14 ติดต่อกัน หากแยกเป็นภูมิภาค มหาวิทยาลัยโตเกียว เป็นสถาบันอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อยู่ในอันดับ 20 ของตาราง โดยตัวแปรที่นำมาใช้ในการจัดอันดับคือ จำนวนบุคลากร ศิษย์เก่าที่คว้ารางวัลโนเบล และเหรียญฟีลด์ส ซึ่งเป็นรางวัลทรงเกียรติด้านคณิตศาสตร์ ตลอดจนบทความลงตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ และวารสารไซแอนซ์



การแข่งขันแบดมินตัน ประเภทหญิงเดี่ยว รอบ 16 คนสุดท้าย กีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 31 ที่ประเทศบราซิล ริโอ เกมส์  



เมย์-รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตัน มือวางอันดับ 4 ของโลก ชาวไทย พ่าย อากาเนะ ยามากุชิ นักกีฬาญี่ปุ่น 0-2 เกม คะแนน 19-21 และ 16-21



ส่วนพีช-พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข ชนะ  มาริย่า อัลติน่า จากยูเครน 2-0 เกมส์  คะแนน 21 - 14 , 21 -16 ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย พบ หลี่ เสวี่ยรุ่ย จากจีน มือ 3 ของรายการ และเจ้าของเหรียญทอง เมื่อ 4 ปีที่แล้ว



..



 

ข่าวทั้งหมด

X