*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงการทำหน้าที่ของ คสช.ว่า คสช.เคารพทุกความคิดเห็น แต่ต้องเป็นความคิดเห็นที่ไม่นำไปสู่ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ คสช.ไม่มีความคิดต้องการยึดอำนาจตามคำพูดของสื่อ แต่ตนเองขอใช้คำว่าควบคุมอำนาจหรือขออำนาจเพื่อจัดการแก้ปัญหาประเทศให้คน 60 ล้านคน ตามที่ควรได้รับการดูแลจากผู้บริหารประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมากฎหมายหรือระเบียบไม่เคยจัดการหรือนำมาใช้บังคับมีผลกับรัฐมนตรีได้ โดยภายในเดือน ส.ค.นี้ คสช.จะพยายามเร่งรัดให้มีสภานิติบัญญัติ หรือสภาปฏิรูปประเทศ จำนวน 200-250 คน จากคนทุกกลุ่มอาชีพ รวมทั้งที่มีคนเห็นต่างทางการเมืองทั้ง 2 ขั้ว มาระดมความคิดเห็นร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนจะเลือกคณะผู้บริหารประเทศ โดยในช่วงระยะเวลาดังกล่าว คสช.จะผลักดันให้มีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น เช่น เลือกตั้ง อบต.โดยจะพยายามให้มีประชาธิปไตยมากที่สุด แต่ไม่ให้กระทบต่อการแก้ปัญหาประเทศตามวิถีทางที่ คสช.ปฏิบัติหน้าที่
+++การเรียกให้บุคคลมารายตัวเพิ่มเติมตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 68/2557 ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ รวม 33 คน ซึ่งมีทั้งอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรค รวมไปถึงแนวร่วมกลุ่ม นปช. แนวร่วม กปปส. และกลุ่มธุรกิจที่สนับสนุน บุคคลตามคำสั่งเรียกได้ทยอยมารายงานตัวที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ได้แก่ นางสุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตามประกาศคำสั่งของ คสช.ฉบับนี้ ได้ย้ำว่าการเชิญตัวบุคคลดังกล่าวมารายงานตัว เจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการดูแลและทำความเข้าใจเท่าที่จำเป็นไม่เกิน 7 วัน
+++ส่วนนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหนึ่งในกลุ่มนิติราษฎร์ ศาลทหารกรุงเทพ ได้อนุญาตให้นายวรเจตน์ได้รับการประกันตัวชั่วคราวแล้ว โดยมีเงื่อนไข 3 ประการ ได้แก่ 1.ห้ามชุมนุมทางการเมือง 2.ห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมือง 3.ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ พร้อมกับหลักทรัพย์เป็นเงินจำนวน 2 หมื่นบาท หลังจากนี้อีก 12 วันศาลฯ จะได้นัดนายวรเจตน์มาเพื่อพิจารณาว่าจะมีการฝากขังต่อไปหรือไม่อีกครั้ง หากพนักงานสอบสวนฯ มีคำสั่งฟ้องคดี
+++หลังศาลทหารกรุงเทพอนุมัติหมายจับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพวกรวม 7 ราย คดีฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ไม่เข้ารายงานตัวนั้น โดยคดีนี้ฐานความผิดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงทำให้คดีนี้มีอายุความ 10 ปี แม้ในอนาคตหากมีการยกเลิก คสช. ไปแล้วแต่ผู้ต้องหาเหล่านี้ยังต้องมาขึ้นพิจารณาคดีที่ศาลทหารเพราะคดีนี้เกิดในช่วงที่ใช้กฎอัยการศึก จึงต้องมาขึ้นศาลทหารเท่านั้น
+++บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว บรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคักเหมือนเดิม พ่อค้าแม่ค้าและกรรมกรชาวกัมพูชานับพันคนทยอยเดินทางข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จากฝั่งปอยเปต เข้ามาค้าขาย และทำงานรับจ้างในตลาดโรงเกลือ โดยไม่มีความวิตกกังวลต่อข่าวลือ ขณะที่การเดินทางกลับประเทศของแรงงานชาวกัมพูชาก็เริ่มลดลงตามลำดับ ขณะเดียวกันก็พบว่า มีผู้ใช้แรงงานตามข้อตกลงเอ็มโอยู จำนวน 50 คน เดินทางจากฝั่งปอยเปตข้ามด่านพรมแดนเข้ามายังอรัญประเทศอย่างถูกต้อง โดยมีตัวแทนบริษัทจาก จ.สมุทรปราการ สงขลา และ กทม. มารับอยู่ที่ด่านพรมแดน
+++นายสุรวุฒิ วงศ์สำราญ อายุ 50 ปี ผู้จัดการบริษัท นอมาด โลจิสติคส์ และกรรมการหอการค้าจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า การที่ คสช.จะเปิดให้ด่านพรมแดนอรัญประเทศ เป็นจุดบริการสำหรับผู้ใช้แรงงานแบบวันสต็อปเซอร์วิส นับว่าเป็นสิ่งที่ดี จะทำให้ปัญหาแรงงานเถื่อนหมดไป อีกทั้งยังเป็นการตัดตอนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนเข้าประเทศ
+++นายตัง กวง อายุ 44 ปี ผู้ประกอบการชาวกัมพูชา กล่าวว่า หากประเทศไทยตั้งจุดวันสต็อปเซอร์วิสที่ด่านพรมแดนอรัญประเทศ แรงงานยากจนชาวกัมพูชาก็จะได้มีสิทธิเข้าไปทำงานในไทยอย่างถูกกฎหมาย นับเป็นสิ่งที่ดีต่อชาวกัมพูชาเป็นอย่างยิ่ง
+++ช่วยชาวนา พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.เป็นประธานที่ประชุมได้ข้อสรุปจะลดต้นทุนการผลิตข้าวของชาวนาขั้นต่ำ 500 บาทต่อไร่ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการปุ๋ยเคมี สารกำจัดศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ข้าว รวมถึงผู้ให้เช่านา นอกจากนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ยังเตรียมปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ชาวนาอีกด้วย พร้อมจะมีมาตรการเสริมในการยกระดับราคาข้าว เพื่อดูแลราคาข้าวภายในประเทศไม่ให้ตกต่ำจนชาวนาเดือดร้อน แต่จะไม่มีการชดเชยเป็นเงิน โดยจะเน้นการลดต้นทุนการผลิตข้าว โดยตัวแทนชาวนาที่เข้าประชุมต่างพอใจ อย่างไรก็ตามมาตรการทั้งหมดจะเสนอให้ หัวหน้า คสช.พิจารณาทันที เพื่อให้ทันการผลิตข้าวในฤดูกาลใหม่ปี 57-58
+++ส่วนบีโอไอ ได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน 18 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 122,837.7 ล้านบาท รายงานข่าวจากบีโอไอ แจ้งว่า การประชุมครั้งนี้มีโครงการเสนอเข้าที่ประชุมรวม 22 โครงการ วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท แต่ที่ประชุมอนุมัติ 18 โครงการ ส่วนอีก 4 โครงการให้กลับไปทบทวนใหม่ เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความจำเป็นในการเร่งอนุมัติการลงทุน และรายละเอียดโครงการที่จะต้องสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติสูงสุด โดยทั้ง 4 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการบริษัท อิชิตัน ผลิตเครื่องดื่ม มูลค่าลงทุน 2.6 พันล้านบาท 2.พีทีที โกลบอลเคมีคอล ในเครือ ปตท. วงเงินลงทุน 9,825 ล้านบาท 3. บริษัท ทีโอซี ไกลคอลโพลีน กลุ่มเคมีภัณฑ์ วงเงินลงทุน 2,826 ล้านบาท และ 4.โครงการลงทุนจัดซื้อเครื่องบินของสายการบิน แอร์เอเชียเอ็กซ์ วงเงินลงทุน 9 พันล้านบาท
+++นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (เอทีเอสเอ็มอี) ในฐานะที่ปรึกษาบอร์ดบีโอไอ กล่าวว่า ในที่ประชุมบอร์ด พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้นโยบายการอนุมัติโครงการต่าง ๆ ต้องให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ และขั้นตอนการอนุมัติต้องโปร่งใสตรวจสอบ ได้ ย้ำว่าต้องไม่มีการคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นโดย เด็ดขาด ซึ่งการอนุมัติโครงการในครั้งนี้ จะ ช่วยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับคืนมาได้
+++ส่วนการรื้อสิทธิประโยชน์บอร์ด รัฐวิสาหกิจ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การปรับเกณฑ์ให้สิทธิประโยชน์คณะกรรมการ และ ฝ่ายบริหารรัฐวิสาหกิจ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)นั้น มองว่า บอร์ดเข้ามาทำงาน แถบจะไม่ได้มีสวัสดิการอะไรมาก หลายคนก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ที่อาสาเข้ามาทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ดังนั้นการปรับการให้สิทธิประโยชน์ ก็ต้องดูให้เกิดความเหมาะสม
+++นายสุธรรม แสงประทุม ประธานคณะกรรมการ บมจ.อสมท พร้อมด้วย นายธงทอง จันทรางศุ นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง และได้มีการแต่งตั้งให้นางกมลาสิริ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. เป็นต้นไป
+++คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีปกปิดบัญชีทรัพย์สิน จากกรณีไม่แจ้งแสดงรายการนาฬิกาหรู มูลค่า 2.5 ล้านบาท
+++ตำรวจนครบาล 2 ควบคุมตัว 1 ใน ผู้ต้องหาที่ร่วมกันทำร้ายร่างกาย นักเรียนการบินพลเรือนบนทางด่วนโทล์เวย์ เมื่อวันที่ 9 พ.ค นายชัยวัฒน์ ดีงาม อายุ 20 ปี เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายสุรศักดิ์ โสวัฒนางกูร นักบินฝึกหัด สถาบันวิทยุการบินพลเรือน บนทางยกระดับโทลล์เวย์ฝั่งขาออกบริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ขณะที่กำลังเดินทางไปฟังผลสอบที่สนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า และรถยนต์เสียหาย ถูกตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาล 2 ควบคุมตัวได้ย่านตลิ่งชัน นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอีก 1 คน