ทุกฝ่ายคุมเข้มจุดสำคัญหลังระเบิด/หลายชาติ เตือนพลเมืองระวังตัว

+++พลตำรวจตรีสุรเชษฐ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ยอมรับว่า เหตุระเบิดตั้งแต่เมื่อคืนนี้ จนกระทั่งช่วงสายของวันนี้ในหลายจังหวัด ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ สั่งการให้ทุกท้องที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจ โดยให้กำลังพล เฝ้าระวังทุกพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปโดยให้เน้นตั้งด่านความมั่นคงทางเข้าออกแหล่งท่องเที่ยว วัด โบราณสถาณ และจุดที่จะมีการจัดงานแสดงความจงรักภักดี เนื่องในวันแม่แห่งชาตินอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังห้างร้าน ห้างสรรพสินค้า และภาคเอกชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะจุดที่เกิดเหตุให้หันกล้องวงจรปิดออกนอกถนนใหญ่ เพื่อเฝ้าระวังพฤติกรรมบุคคลต้องสงสัยเพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ โดยเฉพาะบริเวณจุดจอดรถที่รับติวให้เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษ กำชับไปยังผู้กำกับการทุกสน. ทุกท้องที่ ที่มีการเกิดเหตุขึ้นแล้วให้ระมัดระวังอย่าให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวหรือท้องที่ใดที่ยังไม่เกิดเหตุก็ให้เพิ่มกำลังตรวจตราให้เข้มงวดขึ้น

+++เหตุไม่สงบในหลายพื้นที่ นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทภก.ทอท.) เพิ่มความเข้มงวดมาตรการการรักษาความปลอดภัย ทภก.ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย ระดับ 3 โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนงาน รวมทั้งประสานชุดจัดระเบียบรักษาความปลอดภัย กองทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสาคู เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว สถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติ ดูแลความปลอดภัยพื้นที่ให้มากขึ้นทั้งภายใน และภายนอกอาคารผู้โดยสาร รวมไปถึงบริเวณโดยรอบ ทภก. เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่าน ทภก.

+++การประสานงานด้านการข่าวกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลและทหาร ตำรวจในพื้นที่  การตั้งจุดสกัดบริเวณถนนทางเข้าอาคารผู้โดยสารโดยมี เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทภก. เป็นผู้ปฎิบัติ จัดชุดตรวจผสมและสายตรวจเดินเท้า ให้เพิ่มความถี่ในการตรวจพื้นที่ บริเวณห้องโถงอาคารผู้โดยสารและบริเวณแนวชานชาลาอาคารผู้โดยสาร การจัดระบบจราจรให้จอดเฉพาะรับ-ส่งเท่านั้น เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบยานพาหนะ ที่จะเข้าไปจอดในอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น การตรวจค้นบุคคล กระเป๋าและสัมภาระผู้โดยสาร จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจค้น  บริเวณรอบ ๆ อาคารผู้โดยสารและพื้นที่เขตการบินจะมีรถยนต์สายตรวจ 1 และสายตรวจ 2. จัดชุดทำลายวัตถุระเบิด (EOD) เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง นางมนฤดี กล่าวว่า จากการเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการ การรักษาความปลอดภัย ขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยานปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้การบริการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัย หากพบเห็นเหตุการณ์ ผิดปกติ สิ่งของต้องสงสัย หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ที่อยู่ในบริเวณนั้นทันที หรือแจ้งศูนย์รักษาปลอดภัยของ ทภก. หมายเลขโทรศัพท์ 076 351 009

+++นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยได้เข้ารักษาตัวทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาต่างๆ รัฐบาลจะดูแลเช่นเดียวกับผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ รัฐบาลจะดูแลเต็มที่ จึงขออย่าได้กังวล ทั้งนี้ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว

+++พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเหตุระเบิดที่ จ.ตรัง และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าระเบิดที่เกิดขึ้นทั้ง 2 จุด มีความเชื่อมโยงกันแน่นอน โดยพบว่าวัตถุระเบิดที่ใช้ก่อเหตุเป็นชนิดเดียวกัน มั่นใจและคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดน่าจะมาจากเรื่องภายในประเทศ ยืนยันจะจับกุมคนร้ายให้ได้

+++พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร เรียกประชุมหน่วยความมั่นคง พร้อมหน่วยข่าวกรอง ติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดในหลายจังหวัดของภาคใต้ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1รอ.) เพื่อสรุปหาสาเหตุในการก่อเหตุดังกล่าว พร้อมประเมินสถานการณ์ รวมทั้งวางแผนดูแลรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวในมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด

+++ สถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจต่อเหตุระเบิดในหลายจังหวัดทางใต้ของไทยบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิดในประเทศไทย ขอส่งความห่วงใยและเห็นใจยิ่งมายังผู้ประสบภัยและครอบครัว ด้านนายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่หัวหิน ตรัง และสุราษฏร์ธานีเมื่อช่วงเช้าวันนี้

+++ทางการสหรัฐฯ และอังกฤษ ติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รัฐบาลอังกฤษและออสเตรเลีย ประกาศเตือนภัยพลเมืองที่อาศัยหรือท่องเที่ยวในหัวหิน นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษยังเตือนเรื่องการเดินทางไปยังจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา ระบุว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงสูงในเรื่องภัยคุกคามด้านการก่อการร้าย ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสาร ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและหลีกเลี่ยงการประท้วง การรวมกลุ่มทางการเมือง

CR: คุณชายยีนส์ /ห้องข่าวไลน์สรรสาระสุข,มูลนิธิกุศลศรัทธา สุราษฎร์ธานี