+++ขั้นตอนหลังจากประชามติผ่านความเห็นชอบรวมทั้งคำถามพ่วง นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า วันที่ 15 สิงหาคม กรธ.จะเริ่มประชุมเพื่อพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในส่วนบทเฉพาะกาลให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง ส่วนการจัดทำกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับ กรธ.เห็นตรงกันว่าค่อยทำทีหลังภายหลังแก้ไขเสร็จ จึงยังไม่ได้มีการลำดับความสำคัญว่าจะเริ่มจากฉบับไหนก่อน แต่ทั้งนี้กฎหมายลูกจะเริ่มทำก่อนที่รัฐธรรมนูญจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าไม่ช้าอย่างแน่นอน ส่วนการตั้ง กรธ.เพิ่มเติมได้ไม่เกิน 30 คน ที่ประชุม กรธ.เห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องตั้งเพิ่มเติม
+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรธ. ต้องปรับเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วงภายใน 30 วัน แล้วเสร็จประมาณวันที่ 10-11 กันยายน จากนั้นส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน คือ ประมาณวันที่ 10 ตุลาคม แล้วส่งมาให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 30 วัน โดยขั้นตอนนี้จะต้องผ่านกระบวนการตามโบราณวิธี จะต้องเขียนด้วยลายมือในสมุดไทยโดยพนักงานอาลักษณ์จำนวน 3 ฉบับ เมื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาในเดือนพฤศจิกายน ถือว่ารัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ และรัฐธรรมนูญชั่วคราวจะสิ้นสุดลง
+++กรธ.ต้องร่างกฎหมายลูก 10 ฉบับ ให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน แต่กฎหมายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง 4 ฉบับ สามารถเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือน และเข้าสู่กระบวนการของสภาอีก 2 เดือน พอประกาศใช้กฎหมายทั้ง 4 ฉบับแล้ว กระบวนการเลือกตั้งจะเริ่มขึ้นภายใน 150 วัน นับแล้วปฏิทินการเลือกตั้งจะอยู่ที่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2560 ดังนั้นโรดแมปเลือกตั้งคือปลายปี ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2560 ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อาจคาบเกี่ยวไปถึงต้นปี 2561
+++นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวว่า กกต.ตั้งคณะทำงานเตรียมร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้อง 4 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ดังนั้นจึงไม่ต้องเป็นห่วง ยืนยันว่ามีความคืบหน้าและเสร็จทันกำหนดแน่นอน
+++นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายศุภชัย ยาวะประภาษ สมาชิกกรธ.และนายเจษฎ์ โทณวณิก ที่ปรึกษากรธ.ร่วมบรรยายสรุปเกี่ยวกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญให้กับคณะทูตานุทูตต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ และหอการค้าต่างประเทศ 80 คนจาก 48 แห่ง นายดอน กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญและคำถามเพิ่มเติม ทำให้มีความชัดเจนถึงแผนโรดแมปของรัฐบาลว่าจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในปี 2560 ยืนยันว่ารัฐบาลจะยังเดินหน้าส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย จากนั้นได้เปิดโอกาสให้คณะทูตและผู้แทนต่างประเทศในช่วงถามตอบ ซึ่งทูตคนหนึ่งสอบถามถึงการใช้อำนาจของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยนายดอนระบุว่า คสช.จะยังคงมีอยู่จนกว่าจะมีการตั้งรัฐบาลใหม่
+++ผู้แทนจากสหภาพยุโรป ถามถึงช่วงเวลาการร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ นายศุภชัย ระบุว่า ขณะนี้ได้มีการเริ่มร่างอย่างไม่เป็นทางการแล้ว เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด แต่ต้องคำนึงถึงการรับฟังความเห็นประชาชนด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดมาเป็นที่เรียบร้อย หลังจากได้รับทราบผลการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ ความหวาดกลัวเริ่มลดลง ความไม่แน่นอนทางการเมืองลดลง และผู้บริโภคมีความมั่นใจมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลดีต่อประเทศไทยและเศรษฐกิจไทย เชื่อว่า ต่อจากนี้จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ขอให้ทุกคนมีความเชื่อมั่น
+++นายสมคิด กล่าวว่า แนวทางการขับเคลื่อนประเทศต่อจากนี้ นัดหน่วยงานทางด้านรัฐวิสาหกิจ 17 แห่ง มาประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยขอให้ทุกหน่วยงานต้องช่วยกันเบิกจ่ายงบประมาณอย่างรวดเร็ว และเตรียมการต่อไปยังปีงบประมาณต่อไป โดยเมื่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2560 ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาวาระที่ 1-2 ก็เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมโครงการไว้ล่วงหน้า ดำเนินการในขั้นตอนสำคัญเสร็จ และเมื่อพ.ร.บ.งบประมาณผ่านวาระที่ 3 และมีผลบังคับใช้จะได้เบิกจ่ายได้ทันที
+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มั่นใจว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 3.4 ตามเป้าหมาย และอาจจะสูงเกินกว่าเป้าหมาย หากภาคเอกชนมีการลงทุนมากขึ้น ในส่วนของรัฐบาลทำงานเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะการให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุน ต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับภาคเอกชนว่าจะมีการลงทุนมากน้อยเพียงใด ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติก็เริ่มมีสัญญาณกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
+++ขณะที่ นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แนวโน้มเอ็นพีแอลในช่วงไตรมาส 3 ยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ โดยจะขึ้นกับภาพรวมเศรษฐกิจเป็นสำคัญ แต่การเพิ่มขึ้นดูจะเป็นทิศทางที่ชะลอลง โดยประเด็นที่ต้องจับตาอยู่ที่สินเชื่อเก่าที่เคยมีปัญหาและเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ จะไหลกลับมาเป็นเอ็นพีแอลเพิ่มอีกหรือไม่ เพราะการเพิ่มขึ้นของเอ็นพีแอลช่วงที่ผ่านมา เกิดจากสินเชื่อกลุ่มนี้เป็นหลัก ขณะที่สินเชื่อใหม่ที่กลายมาเป็นเอ็นพีแอลมีไม่มากนัก และคงจะลดลงในช่วงไตรมาส 4 เพราะเป็นช่วงที่แบงก์พาณิชย์ มักจะบริหารจัดการเอ็นพีแอล
+++ผลการสอบสวนข้อเท็จจริง นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรี เมืองบ้านไผ่ ถูกสื่อมวลชน 5 แห่ง แจ้งความข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและคุกคามสื่อกรณีถูกขังล็อกในห้องทำงานของ นพ.เปรมศักดิ์ ที่ไม่พอใจในการนำเสนอข่าวภาพในพิธีแต่งงานกับหญิงสาวชั้น ม.5 นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าฯขอนแก่น และคณะ แถลงว่าผลการสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีมูลที่ นพ.เปรมศักดิ์ ได้กระทำการจริง จึงต้องเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมายต่อไป จากนี้ไปได้แต่งตั้งคณะทำงานชุดใหม่จำนวน 5 คน มีรองผู้ว่าฯเป็นประธาน ดำเนินการสอบสวนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย มีระยะเวลาสอบสวน 120 วัน สามารถขยายเวลาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 120 วัน หากผลการสอบสวนพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 ให้อำนาจ รมว.มหาดไทย ใช้ดุลพินิจสั่งให้นายกเทศมนตรีพ้นจากตำแหน่ง