การจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ที่ ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดศรีสะเกษ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนางสาวอุศนีย์ ธูปทอง ที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการ นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมในพิธีเปิดงานโดยมีนายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษให้การต้อนรับ นายอำพล กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดศรีสะเกษ เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎร กิ่งอำเภอภูสิงห์ ในขณะนั้น เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2537 โดยมีพระราชดำริให้ส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมกันจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ ซึ่งประกอบอาชีพทำนาไม่ได้ผล ในลักษณะเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ตลอดระยะเวลากว่า 22 ปี ที่ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมากจากพระราชดำริ ได้นำแนวทางการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ มาขับเคลื่อนการพัฒนาในลักษณะการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เพื่อให้ประชาชนและผู้สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ และนำองค์ความรู้จากหลักสูตรฝึกอบรมด้านอาชีพ ซึ่งแต่ละปีมีประชาชนจำนวนกว่า 10,000 คน เข้ารับการอบรมและนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ จึงถือว่าโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จสามารถเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายอำพล ยังได้มอบรางวัลให้แก่เกษตรกรที่มีผลงานดีเด่น ของศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมกับเยี่ยมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ผลสำเร็จจากแนวพระราชดำริด้านดิน น้ำ ป่า อาชีพ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืน รวมไปถึงเยี่ยมชมนิทรรศการด้านวิชาการ การขยายผลสำเร็จจากหน่วยงานต่าง ๆ การฝึกอบรมอาชีพระยะสั้น จำนวน 8 หลักสูตร การประกวดผลผลิตทางการเกษตร และการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย
ขณะที่นางแรม เขตนิมิตร เกษตรกรที่ได้รับคัดเลือกเป็นเกษตรดีเด่น ด้านการปลูกมะนาวนอกฤดู เปิดเผยว่า แต่ก่อนทำการเกษตรโดยปลูกข้าวอย่างเดียวซึ่งปลูกพืชเชิงเดี่ยว แต่เมื่อได้เข้ามาอบรมที่ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก็ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงแนวความคิดตรวจสอบปัญหาที่ตัวเองเจอในการทำการเกษตร และได้เริ่มปลูกมะนาวและทำเกษตรทฤษฏีใหม่แบบผสมผสานแต่เน้นมะนาวเป็นรายได้หลัก ทำให้ขณะนี้ คุณภาพชีวิตดีขึ้น ซึ่งถือว่ามีรายได้มากกว่าที่ผ่านมาเกินครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามนอกจากอบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่จากโครงการก็ยังติดตามให้ความรู้สนับสนุนในการแก้ปัญหาให้เกษตรกร หากพบปัญหาภัยแล้งหรือปัญหาที่เกิดจากศัตรูพืช
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี