สถานการณ์ไฟป่าในโปรตุเกสยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากไฟป่ากำลังลุกไหม้อยู่บริเวณเชิงเขา ในเมืองฟุงชาล บนหมู่เกาะมาเด-รา และลุกลามเข้าไปในเขตพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน เนื่องจากกระแสลมแรง ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ศพ บาดเจ็บและสำลักควันไฟอีกกว่า 300 คน ขณะที่ สำนักข่าวต่างประเทศ TheTelegraph รายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 3 ศพ เปลวไฟลุกลามเผาไหม้โรงแรมและบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวกว่า 1,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกือบ 4,500 คน รีบระดมกำลังกันเร่งดับไฟป่าที่ลุกลามอยู่หลายจุด ทำให้ในตอนนี้สามารถควบคุมไฟป่าได้แล้ว ขณะเดียวกัน ตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการลอบวางเพลิง และในตอนนี้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 2 คน แต่อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีอันโตนิโอ คอสตา ของโปรตุเกสเตือนว่า ช่วงไม่กี่วันข้างหน้าจะมีความสำคัญมากเพราะอุณหภูมิอาจจะร้อนเป็นอย่างมาก หากในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ สถานการณ์ไฟป่ายังคงไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่นในกลุ่มยุโรปทั้งรัสเซีย
รัฐบาลโปรตุเกส ส่งทีมดับเพลิงกว่า 100 คนขึ้นเครื่องบินทหารไปยังเกาะมาเดรา จุดเกิดเหตุไฟป่า ยิ่งลุกลามมากขึ้นเนื่องจากลมแรง บ้านเรือนถูกไฟไหม้เสียหาย 40 หลังและโรงแรมระดับ 5 ดาวอีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแห่งหนึ่งในเขตเมืองฟุงชาล
เว็บไซต์ข่าวอาร์ทีอี รายงานอ้างกระทรวงความมั่นคงภายในของโปรตุเกสว่า มีคนเสียชีวิต 4 ศพ มีคนบาดเจ็บ 80 คน ส่วนใหญ่มีรอยไหม้ตามร่างกายและสำลักควัน หน่วยงานท้องถิ่นสั่งอพยพชาวบ้านกว่า 1,000 คนบนเกาะมาเดราไปยังที่พักพิงชั่วคราว หลังไฟป่าลุกไหม้ 3 วันแล้ว เริ่มลุกลามไปยังเมืองฟุงชาล ซึ่งเป็นเมืองเอกของเกาะและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ สำหรับเรื่องสาเหตุของเหตุไฟไหม้ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการวางเพลิงและได้จับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายเพื่อสอบปากคำ ขณะเดียวกันรัฐบาลโปรตุเกสได้ร้องขอความช่วยเหลือจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) โดยสเปน เพื่อนบ้านได้ส่งเครื่องบิน 2 ลำ อิตาลีส่งเครื่องบิน 1 ลำไปช่วยดับไฟป่า
รีไรต์ :อรพรรณ สวัสดีผล
CR: TheTelegraph