กฟผ.เร่งเสริมศักยภาพระบบส่ง-กำลังการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ไฟ

การพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าและโรงไฟฟ้าใหม่ของประเทศไทย นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ รองผู้ว่าการนโยบายและแผนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)  เปิดเผยว่า สถานการณ์ไฟฟ้าของประเทศไทย ในปี2559 ช่วงเดือนพฤษภาคมมีความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดถึง29,618.8 เมกะวัตต์ หากเปรียบกับปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้นถึง2,273เมกะวัตต์ ส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าทั่วประเทศนั้นพบว่า พื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ มีความต้องการไฟฟ้าเพียงพอต่อกำลังการผลิต  แต่ในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานครมีความต้องการไฟฟ้าสูงถึง10,721เมกะวัตต์ แต่กำลังผลิตได้เพียง3,819เมกะวัตต์ ดังนั้นต้องดึงกำลังผลิตจากพื้นที่อื่นๆมาใช้ในพื้นที่  สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีความต้องการมากที่สุดคือ ภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการถึงร้อยละ 42  ส่วนบ้านพักอาศัยร้อยละ 24 ธุรกิจร้อยละ 19 และ กิจการขนาดเล็กร้อยละ 11 เท่านั้น

ส่วนแผนการพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าปี2558-2579 มี 6 มาตรการ ได้แก่ การจัดการโรงงานและอาคารควบคุม,มาตราประสิทธิภาพพลังงานในอาคาร,การสนับสนุนด้านการเงิน,มาตราการส่งเสริมLED,มาตรการบังคับใช้เกณฑ์มาตรฐาน การประหยัดพลังงานสำหรับผู้ผลิตและจำหน่ายพลังงาน ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น คาดว่าในปีพ.ศ.2579จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ค่อนข้างสมดุลอยู่ที่70,335 เมกะวัตต์

สำหรับโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าจะแบ่งเป็น 4 ยุทธศาสตร์ คือ โครงการรองรับความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในแต่ละพื้นที่ของประเทศ,โครงการรองรับการจ่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าใหม่,โครงการเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า ,โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน โดยการปรับปรุงดังกล่าวจะครอบคลุมทั่วประเทศ เมื่อปรับปรุงเสร็จจะสร้างความมั่นคงของระบบมากขึ้น ซึ่ง กฟผ.ก็เตรียมแผนรองรับและแผนการขายพลังงานไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน

ด้านนายบุญมาก สมิทธิลีลา รองผู้ว่าการพัฒนาระบบส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าใหม่ของประเทศไทยว่า โครงการก่อสร้างระบบส่งที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทั้ง16 โครงการ ด้วยงบประมาณ 345,053ล้านบาท ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่แบ่งเป็นโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าเพื่อสนองความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น3โครงการ ,โครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าเพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า6โครงการ ,โครงการปรับปรุงและขยายระบบส่งไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพ3โครงการ ,โครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับการเชื่อมต่อโรงไฟฟ้า4โครงการ ซึ่งทั้งหมดมีบางโครงการอาจจะล่าช้าบ้าง โดยการกำหนดแนวเขตโครงการระบบส่งไฟฟ้าจะคำนึงถึง การลดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และขั้นตอนการก่อสร้างจะต้องเป็นไปตามหลักวิศวกรรมและหลักเศรษฐศาสตร์ด้วย  

 โดยการก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้าของกฟผ.นั้นก็จะต้องเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนที่มีข้อสงสัยต่อการพัฒนาต่อโครงการดังกล่าว ถึงเรื่องของการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินการกำหนดราคาค่าตอบแทนและสิทธิอุทธรณ์ค่าทดแทน รวมทั้งแก้ไขและเยียวยาผู้ที่ได้รับกระทบ