ประธานกรธ.เผยเป็นสัญญาณบวกนายกฯรับร่าง แสดงให้เห็นไม่มีการบิดเบือน

ช่วงโค้งสุดท้ายของการลงประชามติ วันที่ 7 สิงหาคม นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พร้อมทั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการร่างรัฐธรรมนูญ ตลอด 10 เดือน ยืนยันว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความอิสระเต็มร้อย เนื่องจากไม่ได้มาจากคำสั่งของใคร โดยฟังความคิดเห็น ความต้องการจากประชาชน และผู้เกี่ยวข้อง ก่อนนำมากลั่นกรอง รวบรวม เขียนเป็นร่างรัฐธรรมนูญขึ้น ต้องคำนึงว่าจะไม่เกิดผลกระทบต่อส่วนรวมและต้องมีเหตุมีผล เมื่อถามว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตรงใจหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ร้อยละ 90 รู้สึกพอใจ แต่ก็มีบางส่วน ที่ไม่สบายใจ เนื่องจากรู้สึกว่าเขียนฟุ่มเฟือยเกินไป ทั้งนี้ก็เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจอย่างกระจ่างมากขึ้น และตลอด 10 เดือนของการร่างรัฐธรรมนูญ สิ่งสำคัญที่ถือเป็นบทเรียน คือ เรื่องเวลา ทั้งเวลาในการคิดก่อนลงมือร่าง และเวลาในการทำความเข้าใจกับประชาชน ที่อาจตีความแตกต่างกันออกไป จนเกิดเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

นายมีชัย กล่าวว่า หลังการทำประชามติเสร็จสิ้น หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่าน ก็ต้องไปดูที่คำถามพ่วง ว่าผ่านหรือไม่ ถ้าคำถามพ่วงผ่านต้องนำคำถามพ่วงใส่เข้าไปในรัฐธรรมนูญ แล้วส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา พร้อมกับการทำกฎหมายลูก ทั้ง 10 ฉบับ โดยจะหยิบกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งขึ้นมาทำก่อน โดยดำเนินการตามระยะเวลาอันสมควร กรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศยืนยันรับร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัย กล่าวว่า ถือเป็นสัญญาณบวก และตัวเองรู้สึกอุ่นใจ คลายความกังวลที่นายกรัฐมนตรีได้ใช้สิทธิ์ของตัวเอง โดยแสดงให้เห็นว่าไม่มีการบิดเบือนตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ แต่ก็ยอมรับหลายครั้งรู้สึกดีใจ ที่มีคนปล่อยข่าวเท็จเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ เพราะแสดงให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ดี หาจุดด้อยไม่เจอ จนต้องใช้เล่ห์กล และการโกหก ส่วนที่มีทั้งกระแสทั้งรับและไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ สุดท้ายแล้วจำเป็นต้องคำนึงถึงผลได้ ผลเสียที่แตกต่างกันตามสถานะ จึงอยากฝากว่า อย่าไปดึงคนอื่นให้มานึกถึงส่วนได้เสียของตัวเอง แต่ต้องคำนึงถึงส่วนรวมและประเทศชาติเป็นหลัก ทั้งนี้หากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่าน นายมีชัย กล่าวว่า ตัวเองไม่มีสิทธิ์แสดงความรู้สึกอะไร เพราะได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว หลังจากนี้ปล่อยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเอง และหากรัฐธรรมฉบับนี้ไม่ผ่าน ก็ไม่ควรจะกลับมาร่างใหม่ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นร่างบ้าง

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม