นายกฯเผยไม่ต้องกลัวลงประชามติ/นักลงทุนกังวลค่าบาท/ทหาร ดูพื้นที่เตรียมจัดระเบียบรถตู้สาธารณะ

04 สิงหาคม 2559, 12:19น.


+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองวันอาเซียน เข้าสู่ปีที่ 50 โดยกล่าวสุนทรพจน์ตอนหนึ่งว่า วันนี้ต่างประเทศไม่ต้องแจ้งเตือนเรื่องการทำประชามติในประเทศไทย เพราะมีทหารดูแลอยู่แล้ว และอย่ากลัวการทำประชามติ เว้นแต่คนที่ไม่ดีที่จะออกมาก่อความวุ่นวาย ซึ่งบางครั้งสิ่งที่เราจะทำต้องมีปัญหาความขัดแย้งและเห็นต่างอยู่แล้ว แต่ความเห็นต่างต้องไม่ผิดกฎหมาย ขอให้แยกกันให้ออก และอย่าคิดนอกกรอบมากเกินไป ทำอะไรต้องคำนึงถึงกฎหมายบ้านเมืองจะได้ไม่เกิดความวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม มนุษย์ ในภาษาไทย คือ คน และเมื่อเปิดพจนานุกรม แปลว่า การทำให้ยุ่ง ดังนั้นจึงต้องเข้ามาเป็นเครื่องปั่นเพื่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน แต่เครื่องปั่นจะพังเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ 10 ปีที่แล้วที่วุ่นวายเพราะไม่มีการเตรียมความพร้อม การเมืองทำทุกอย่างให้วุ่นไปหมด ทั้งในประเทศและภายนอกประเทศ



+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องทำอย่างไรให้อาเซียนเป็นประเทศแห่งการเอื้ออาทร เนื่องจากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงโลกและประเทศ ซึ่งหากไม่มีการปฏิรูปตอนนี้จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว เพราะการปฏิรูปเกิดตามช่วงประวัติศาสตร์ วันนี้จึงต้องเลิกสิ่งเหล่านี้ให้ได้และขอให้ทุกคนพิจารณาด้วยสติปัญญา โดยการฟัง คิด ตัดสินใจเอาเองว่าจะเชื่อหรือไม่ เพราะในส่วนตัวไม่อาจพูดอะไรได้ตอนนี้



+++พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดเผยถึงประเด็นสถานการณ์ก่อนวันลงประชามติในวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค.นี้ สั้นๆว่า เรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง



+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณีที่สหรัฐฯา ญี่ปุ่น เมียนมา และอังกฤษ เตือนพลเมืองตัวเองไม่ให้เข้าใกล้คูหาในวันลงประชามติ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มองว่าเรื่องนี้เป็นการเตือนให้ระวังจะขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การเตือนนี้เป็นเรื่องปกติ ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย เช่นเดียวกับคนไทย ที่กฏหมายก็ห้ามเข้าใกล้คูหา และห้ามถ่ายรูปเซลฟี่กับคูหา เพราะขัดต่อกฎหมาย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องยอมรับการตัดสินใจของประชาชน และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเข้าใจ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลทำอย่างเต็มที่แล้ว และไม่เคยทำอะไรเสียหาย



+++หลังจากที่เมื่อวานนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.50 แต่กนง. กังวลเรื่องค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ตลาด คาดว่าธปท. น่าจะเข้ามาดูแลค่าเงินบาท เช้านี้ ค่าเงินบาทเปิดตลาด อยู่ที่ 34.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ  ขณะที่ปิดตลาดเมื่อวานนี้อยู่ที่ 35.01 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ  นักวิเคราะห์ค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า วันนี้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าขึ้น ทำให้นักลงทุนมีความกังวล ขณะเดียวกันตัวเลขการจ้างงานจากภาคเอกชนในเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯออกมาดี จึงส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าในวันนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไป คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารอังกฤษ โดยตลาดโลกคาดว่า อังกฤษ น่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยถึงร้อยละ 99  เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงติดตามตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าโรงงานสหรัฐฯที่จะประกาศในวันนี้ด้วย



+++พลเอกสุวิทย์ เกตุศรี รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ประธานคณะทำงานจัดระเบียบรถตู้สาธารณะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หมอชิต เพื่อตรวจความพร้อมของพื้นที่และการจราจร พร้อมทั้งประชุมชี้แจงแผนการใช้พื้นที่ใต้ทางด่วน ก่อนจะเดินทางลงพื้นที่บริเวณทางด่วนเพื่อตรวจพื้นที่และระบบจราจรบริเวณรอบสถานีขนส่งโดยสารกรุงเทพ ด้านถนนกำแพงเพชร 2 และถนนกำแพงเพชร 6 สำหรับแนวทางการจัดระเบียบรถตู้ประจำทาง ที่วิ่งเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯไปยังต่างจังหวัดระยะทางไม่เกิน 300 กม. จะให้เข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร,สายใต้บรมราชชนนี,เอกมัย) เพื่อลดปัญหาข้อร้องเรียนและการจราจรติดขัดในเขตเมืองกรุงเทพฯ และยกระดับบริการให้ได้มาตรฐาน ความปลอดภัย เบื้องต้นการดำเนินการจุดจอดรถของรถตู้โดยสารที่มีการจัดระเบียบจะแบ่งเป็น 3 แห่ง คือ สถานีขนส่งหมอชิต 2 รองรับรถได้ประมาณ 2,046 คัน สถานีสายใต้ใหม่ 1,650 คัน และสถานีเอกมัยกว่า 542 คัน รวมทั้งสิ้น 4,238 คัน ขณะที่ ขสมก. วางเเผนใช้รถshuttle bus ประมาณ15 คัน คอยบริการรับส่งผู้โดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิตมายังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิตเพื่อต่อรถ เเละจากอนุสาวรีย์ชัยฯไปยังสถานีขนส่งเอกมัย เเละสายใต้ใหม่ ในช่วงเวลาเร่งด่วนตั้งเเต่ 05:00 - 09:00 น. และ 15:00 - 19:00 น. เพื่อไม่ให้กระทบกับเวลาการเดินทางของผู้โดยสาร ทั้งนี้จะมีการทดลองจัดระเบียบในวันที่ 21-28 ก.ย. และจะมีการปรับใช้งานจริงในวันที่ 25 ต.ค.นี้ 



+++อิตาลี ผ่านกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อหวังลดปริมาณขยะอาหารปริมาณมหาศาลในแต่ละปี สำหรับกฎหมายฉบับนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา 181 เสียงคัดค้าน 2 เสียงและงดออกเสียง 16 เสียง ที่กำหนดให้ร้านอาหารลดปริมาณขยะ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายคือการลดปริมาณขยะอาหารลงให้ได้ 1 ล้านตัน จากที่คาดว่าจะมีปริมาณปีละประมาณ 5 ล้านตัน ซึ่งนายมัวริซิโอ มาร์ติน่า รัฐมนตรีเกษตร แสดงความเชื่อมั่นว่า กฎหมายฉบับนี้จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความอดอยาก และลดปริมาณขยะอาหารทั่วโลกต่อไป เขากล่าวด้วยว่า ขยะอาหารปริมาณหลายล้านตันในแต่ละปีสร้างความสูญเสียมากกว่า 1 หมื่น 2 พันล้านยูโร หรือมากกว่าร้อยละ 1 ของจีดีพี



+++ด้านองค์การอาหารและเกษตรกรรมสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ คาดว่า ประมาณอาหารที่ถูกทิ้งทั่วโลกมีปริมาณมากถึง 1 ใน 3 แต่ในยุโรป มีปริมาณมากถึงร้อยละ 40 ซึ่งสามารถนำไปเลี้ยงดูผู้คนได้มากถึง 200 ล้านคน



+++อิตาลี มีโครงการและมาตรการเพื่อลดปริมาณขยะอาหารหลายมาตรการ รวมถึงการที่เมื่อ 3 เดือนก่อน ศาลสูงสุด มีคำตัดสินว่าการขโมยอาหารในจำนวนน้อย หรือขโมยเพื่อนำไปรับประทานไม่ถือเป็นอาชญากรรม กับยังมีความกังวลเรื่องที่ร้านค้า หรือประชาชนเลี่ยงการถูกปรับเพราะการทิ้งขยะอาหารปริมาณมาก ด้วยการบริจาคอาหารที่ใกล้จะหมดอายุหรือนำอาหารที่หมดอายุแล้วปะปนในอาหารบริจาค ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ที่รับอาหารนั้นไปเลี้ยงดูครอบครัว กฎหมายฉบับนี้จึงให้เจ้าของร้านค้าทำบันทึกปริมาณอาหารที่บริจาคในแต่ละเดือน แล้วนำไปลดหย่อนภาษีได้ เช่นเดียวกับเกษตรกรที่บันทึกผลผลิตที่บริจาคให้ผู้ยากไร้แล้วนำไปลดหย่อนภาษีได้



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X