ภายหลังการกิจกรรมรณรงค์และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติทั่วประเทศ (Big Day) บริเวณลานพระราชวังดุสิต นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติ โดยในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ กกต. ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องมีประชาชนไปลงประชามติถึงร้อยละ 80 ส่วนจะถึงหรือไม่ถึงนั้นขึ้นอยู่กับประชาชน และหากไม่ถึงเป้า ก็ไม่ได้หมายความว่าการประชาสัมพันธ์ของ กกต. ล้มเหลว เพราะกกต. ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว นายศุภชัย ย้ำว่า การออกเสียงประชามติ ทุกเสียงมีความหมาย เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ใช้สิทธิของตัวเอง จึงอยากขอให้ประชาชนศึกษาร่างรัฐธรรมนูญก่อนลงเสียงและใช้สิทธิเลือกหรือไม่เลือกอย่างเป็นความลับด้วย สำหรับสัญญาณการป่วนวันทำประชามติ
นายศุภชัย ระบุว่า ขณะนี้ไม่พบสัญญาณการก่อเหตุของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ ซึ่งขอประชาชนอย่ากังวลในเรื่องของความมั่นคง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดูแลอย่างเต็มที่ โดยยืนยันว่า ยังไม่ต้องขอกำลังเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับการจัดเวทีดีเบตร่างรัฐธรรมนูญในต่างจังหวัดที่ กกต. เป็นผู้จัด ได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ส่วนที่มีผู้บอยคอตการลงประชามติ โดยไปกาชื่อของตัวเองทิ้งในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียง จะถือว่าเป็นความผิดหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ต้องตรวจสอบว่ากรณีนี้เข้าข่ายทำลายทรัพย์สินหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว กรณีที่จังหวัดราชบุรีมีการพ่นสีเพื่อให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ ก็จะให้กกต. จังหวัดดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. โยนหีบบัตร แล้วแตก แสดงให้เห็นว่าไม่มีความแข็งแรง และไม่ผ่านคุณสมบัติตามที่กำหนดหรือไม่ และยังมีการที่มีรายงานข่าวว่า หีบบัตรบางจังหวัดเกิดการชำรุดเสียหายระหว่างการขนส่ง นายศุภชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่สามารถพบได้ และไม่ได้ถือว่าเป็นความบกพร่องของ กกต. ส่วนจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบว่า หีบบัตรตรงตามคุณสมบัติหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณาถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่าหากหีบบัตรเกิดการชำรุด ก็มีใบใหม่ที่จะมาเปลี่ยน เพราะเชื่อว่าคณะผู้จัดทำก็คงไม่ได้ทำมาพอดีจำนวน ต้องมีการทำเผื่อ เมื่อมีกรณีเกิดความเสียหายไว้ด้วย
ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข