*นายกฯชี้ความเสียหายจำนำข้าวสุงกว่า280,000ลบ./อภิสิทธิ์ชวนคนมาลงประชามติ/หุ้นไทยบวกส่วนตลาดต่างประเทศ

*สรุปข่าว 19.35น**สรุปข่าว 19.35น*

+++หลังมีการเปิดเผยตัวเลขความเสียหายโครงการจำนำข้าว รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 280,000 ล้านบาท พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ในการทำให้โครงการจำนำข้าวเกิดความเป็นธรรมมากขึ้น ส่วนตัวเลขความเสียหายที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า เนื่องจากตัวเลขที่ออกมาเป็นการสำรวจในปี 2557 โดยเฉพาะเรื่องการเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และพวก กว่า 2.8 แสน ล้านบาท ซึ่งการเรียกค่าเสียหายในคดีรับจำนำข้าว จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาลแพ่งในวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม ขอยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใครทุกอย่างต้องโปร่งใสเป็นธรรม แต่จะต้องมีผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในโครงการนี้ จึงขอให้สังคมมีความมั่นใจ สบายใจ ทุกคดีต้องดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายอย่างถูกต้องในชั้นศาล ที่กำหนดการเรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว ให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลแพ่งในวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคมนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำประชามติ  7 สิงหาคม เพราะว่าการส่งเรื่องให้ศาลพิจารณาคดีเป็นไปตามการเรียกค่าเสียหายตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ. 2539 จึงขออย่านำมาเชื่อมโยงกันเพราะทุกอย่างเดินตามกระบวนการกฎหมายไม่มีใครสั่งศาลได้

+++พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการลงประชามติว่า กอ.รมน. เตรียมพร้อมรับคำสั่งและประสานงานให้ความช่วยเหลือได้ทุกเมื่อจากกกต.และรัฐบาล แต่ปกติกอ.รมน.จะปฏิบัติงานด้านการข่าวอยู่แล้ว พร้อมทั้งบูรณาการประสานงานกับทุกส่วนราชการ โดยพร้อมให้ความสนับสนุนทุกหน่วยงานหากมีการประสานเข้ามาจากข้อมูลด้านการข่าวของกอ.รมน.มี ไม่มีสิ่งบอกเหตุว่า จะเกิดเหตุรุนแรง ที่ทำให้การลงประชามติไม่เกิดขึ้นในวันที่ 7 ส.ค. ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่มีเหตุรุนแรง พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่าข้อมูลด้านการข่าวของคสช.ยังไม่มีความเคลื่อนไหวว่าจะเกิดเหตุความรุนแรงในวันที่ 7 ส.ค. เนื่องจากภาพรวมที่ผ่านมายังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อยคงมีแต่เพียงส่วนน้อยที่แสดงความคิดเห็นที่อาจสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายบ้าง

+++นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแสดงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในการออกเสียงประชามติที่ยึดอุดมการณ์ของพรรค ว่าในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่ได้ยึดความต้องการของตนเองเป็นใหญ่ แต่ส่วนตัวและพรรคประชาธิปัตย์มีแนวความคิดตามวิถีทางประชาธิปไตย จึงอยากเห็นประชาชนมีสิทธิและมีส่วนร่วมในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญด้วย ส่วนกรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์  ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บอกให้พรรคการเมืองต้องรับผิดชอบหากเกิดปัญหาจากการประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การรับผิดชอบของพรรคการเมืองคือการร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อให้ได้ร่างรัฐธรรมนูญที่ดีกว่าเดิม จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ทบทวนแนวทางร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม เพราะหากขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนบ้านเมืองก็เดินไปได้ยาก แต่หากทำได้บ้านเมืองก็พัฒนาต่อไป เชิญชวนให้ประชาชนไปออกเสียงประชามติกันให้มาก เพราะผลการออกเสียงจะผูกพันทุกคน และเป็นกฎหมายหลักของประเทศ

++++ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมอี-เพย์เมนต์ ว่า ได้สั่งการให้ผู้บริหารกระทรวงการคลังหาแนวทางดำเนินงานครึ่งปีหลัง โดยได้แบ่งกลุ่มงานที่จะดำเนินการออกเป็น 4 กลุ่มงาน ประกอบด้วย กลุ่มงานลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเข้มแข็ง, กลุ่มงานเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน, กลุ่มงานสร้างความโปร่งใส เพิ่มหลักธรรมาภิบาล และกลุ่มงานเรื่องของสังคม เพื่อรองรับในการปฏิรูปประเทศในหลายด้าน โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือคนยากจน  ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีตามลำดับ โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เร่งผลักดันโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านการพิจารณาจากครม.เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการพีพีพี พร้อมนำเข้าสู่กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟาสตักเจอร์ฟันด์) ภายในปลายไตรมาส 3-4 ปีนี้       ขณะที่ ส่วนของเงินทุนจากต่างประเทศ ที่ไหลเข้าไทยมาเป็นจำนวนมากนั้น เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมองไทยเป็นประเทศที่น่าสนใจในการลงทุน โดยเฉพาะภายหลังการทำเบร็กซิทแล้วทำให้เงินไหลเข้ามาตลาดเอเชียเป็นจำนวนมาก ประกอบกับไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ซึ่งมั่นใจว่าเงินที่ไหลเข้านั้น ธปท.จะดูแลเพื่อให้เกิดประโยชน์ได้อย่างแน่นอน ส่วนกรณีโมเดลเห็บสยาม ยืนยันว่าประเทศไทยเปรียบเสมือนเสือซุ่มที่พร้อมทะยาน แต่ในยามที่เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ ไทยจึงต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายในเพื่อพร้อมในการลงทุนในอนาคต

+++ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,507.47 จุด เพิ่มขึ้น 9.96จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,637.53 ล้านบาท หลังได้รับปัจจัยบวกจากกระแสเงินทุนไหลเข้าหรือฟันด์โฟลว์ที่มีต่อเนื่อง ประกอบกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือกนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1.5  ยังทำให้ตลาดหุ้นไทยมีคึกคักสามารถทะลุ 1,500 จุดได้อีกครั้ง

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันนี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และตลาดหุ้นในต่างประเทศที่ร่วงลง

ลดลง 308.34 จุด ที่ 16,083.11 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และความผิดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นลดลง 390.02 จุด ที่ 21,739.12 จุด

++++ความเคลื่อนไหวนักชกทีมชาติไทยชุดโอลิมปิก 2016 ทั้ง 5 รุ่นประกอบไปด้วย “น้องแสบ” หญิง เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม รุ่นฟลายเวต (51กก.)หญิง, “เจ้าสด” ฉัตร์ชัย บุตรดี รุ่นแบนตั้มเวต (56กก.), “เจ้าเพชร”อำนาจ รื่นเริง รุ่นไลต์เวต( 60กก.), “เจ้าเอ็ม”วุฒิชัย มาสุข รุ่นไลต์เวลเตอร์เวต(64กก.) , “เจ้าลม” สายลม อาดี รุ่น เวลเตอร์เวต(69กก.) ล่าสุด นายพิชยพันธุ์ ชาญภูมิดล เอกอัคราชทูต ณ กรุงบราซิเลีย ได้อวยพรให้กับ 5 กำปั้นเสื้อกล้ามไทยประสพความสำเร็จคว้าชัยชนะในรีโอเกมส์เพราะถือว่าเป็นหนี่งในกีฬาความหวัง  ด้านนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้กล่าวอวยพรให้กับทีมกำปันเสื้อกล้ามไทยประสบความสำเร็จเพราะเป็นหนี่งในกีฬาความหวังทำให้เต็มที่เพื่อชาติส่วนผลการแข่งขันนั้นอย่าไปกังวลให้มากแพ้ชนะเป็นเรื่องของเกมกีฬา ส่วนการดูแลช่วยเหลือนั้นทางกกท.ได้เตรียมทุกอย่างมาอำนวยความสะดวกเต็มที่ทั้งนักกายภาพบำบัดนักวิทยาศาสตร์ การกีฬารวมไปถีงอาหารการกิน นั้นจะจัดเตรียมพร้อมส่งให้นักกีฬาตามที่ร้องขอมา

+++ด้านน.อ.ทวีวัฒน์ อิสลาม หัวหน้าโค้ช ทีมมวยสากลสมัครเล่นได้กล่าวถีงความพร้อมว่า ตอนนี้ทุกคนพร้อมแล้ว วันพรุ่งนี้ ( 4 ส.ค.) ก็รอลุ้นผลจับฉลากประกบคู่แต่ไม่ว่าจะออกมายังไงทั้ง 5 นักชกก็พร้อมสู้เต็มที่ ส่วนตัว มองว่ามีโอกาสกันทุกคนเพราะดูจากสถิติ ที่ผ่านมากับสภาพความพร้อมการเตรียมพร้อมของทีมเราถีงว่าสมบูรณ์เต็มร้อยแล้ว

+++นายสันชัย ปาติล ตำรวจในรัฐกัวทางภาคตะวันตกของอินเดียว่า มีคนสูญหาย 22 คนหลังสะพานทางด่วนเส้นหนึ่งที่เชื่อมโยงเมืองมุมไบกับรัฐกัว สถานตากอากาศทางภาคตะวันตกของประเทศถล่มลงมา เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ สภาพสะพานเก่ามากใช้งานมาตั้งแต่สมัยอินเดียอยู่ใต้อาณานิคมของอังกฤษ เป็นเหตุให้รถโดยสาร 2 คันที่แล่นอยู่บนสะพานตกลงไปในแม่น้ำสาวิตรี ซึ่งมีระดับน้ำท่วมสูงหลังฝนตกหนักในฤดูมรสุมในช่วงนี้ เจ้าหน้าที่สั่งปิดสะพานที่ชำรุดและให้ผู้ขับขี่ใช้สะพานคู่ขนานอีกเส้นหนึ่งแทน เบื้องต้นทีมกู้ภัยราว 80 คน รวมถึงนักประดาน้ำไปถึงจุดเกิดเหตุ แต่ยังไม่พบรถโดยสารหรือผู้รอดชีวิต

++++นายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แถลงรายชื่อคณะรัฐมนตรีคนใหม่ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะในช่วงบ่ายวันนี้ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าตำแหน่งอย่างเป็นทางการหลังการเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะที่พระราชวังอิมพีเรียล ในกรุงโตเกียวเพื่อถวายสัตย์ปฏิญานตนในการเข้ารับตำแหน่ง ผู้นำญี่ปุ่นแต่งตั้งนายทาโร อาโซะในตำแหน่งเดิมคือ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง นายซานาเอะ ทากาอิชิ รั้งตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงภายในและการสื่อสาร นายคัตซูโตชิ คาเนดะ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม ก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศนายเคอิชิ อิชิอิ จากพรรคโคเมโตะ จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคมและการท่องเที่ยว นายโคอิชิ ยามาโมโตะ จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม นางโตโมมิ อินาดะจากพรรคเสรีประชาธิปไตย จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม ขณะเดียวกันนายโยชิฮิเดะ ซูกะรั้งตำแหน่งเดิมคือ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี

++++เครื่องบินสายการบินเอมิเรตส์ที่มีผู้โดยสาร 275 คนประสบอุบัติเหตุลงกระแทกพื้นและไฟไหม้ขณะลงจอดที่ท่าอากาศยานดูไบในวันพุธนี้ แต่ผู้โดยสารทั้งหมดได้รับการอพยพอย่างปลอดภัย สังคมออนไลน์โพสต์ภาพกลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยออกมาจากเครื่องบิน สำนักงานกิจการสื่อดูไบรายงานทางทวิตเตอร์ว่า เครื่องบินสายการบินเอมิเรตส์ซึ่งเดินทางมาจากอินเดียประสบอุบัติเหตุลงกระแทกพื้นและไฟไหม้จนเกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ขณะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เครื่องบินโบอิง 777-300 เที่ยวบินอีเค521 จากเมืองธีรุวนันทปุรัมของอินเดียมายังดูไบประสบอุบัติเหตุระหว่างลงจอดที่สนามบินดูไบ โดยมีผู้โดยสารและลูกเรือ 275 คนบนเครื่องบิน และทางสายการบินมุ่งให้ความช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นลำดับแรก