หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ( ดีเอสไอ) แจ้งความจับพระมหาบุญชัย จารุทัตตโต ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี วัดพระธรรมกาย หลังจากไม่เข้าให้ปากคำ พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า สาเหตุที่พระมหาบุญชัย เลื่อนการให้ปากคำดีเอสไอ เนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.ค. หลังพระถวัลศักดิ์ ยติสักโก ผู้ช่วยพระมหาบุญชัย ได้เข้าให้ปากคำกับดีเอสไอแล้ว พนักงานสอบสวนได้ฝากพระถวัลศักดิ์แจ้งพระมหาบุญชัยให้เตรียมเอกสารการเงินของวัดมาชี้แจงในวันที่ 2 ส.ค. แต่ด้วยเวลาที่กระชั้นชิดจึงไม่สามารถเตรียมเอกสารไม่ทัน จึงทำหนังสือถึงดีเอสไอ ขอเลื่อนการให้ปากคำ ออกไปเป็นวัน 18 ส.ค. แต่ดีเอสไอกลับไม่ยินยอม และไปแจ้งความข้อหาขัดหมายเรียกต่อพระมหาบุญชัย
พระสนิทวงศ์ให้ความเห็นว่า จากเหตุผลดังกล่าวไม่ได้เป็นการประวิงเวลา เเละเป็นไปไม่ได้ที่ดีเอสไอจะส่งสำนวนเพิ่มเติมให้อัยการภายในวันที่ 11 ส.ค.นี้ เพราะดีเอสไอได้ออกหมายเรียกพยานรายอื่นๆให้มาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 17,23 และ 24 ส.ค.
ทั้งนี้ กรณีที่พระภิกษุจะเดินทางไปให้ปากคำหรือไม่ เป็นสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 106/1(2) ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ที่ระบุว่า ห้ามไม่ให้ออกหมายเรียกพระภิกษุเป็นพยานไม่ว่ากรณีใดๆ ซึ่งที่ผ่านมาพระมหาบุญชัยได้ให้ความร่วมมือกับดีเอสไอมาโดยตลอด ซึ่งพระสนิทวงศ์ได้ตั้งคำถามกลับว่า การกระทำในลักษณะนี้ ดีเอสไอต้องการตัวพระ หรือต้องการข้อมูลกันแน่ พร้อมยืนยันว่า วันที่ 18 ส.ค.พระมหาบุญชัยจะเข้าให้ปากคำกับดีเอสไออย่างแน่นอน
ขณะที่อาการอาพาธของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังคงทรงตัว ซึ่งทางคณะแพทย์ผู้ทำการรักษาแนะนำว่า ให้พระธัมมชโยงดปฏิบัติศาสนกิจไปก่อน และยืนยันว่าพระธัมมชโยยังพักรักษาตัวอยู่ภายในวัด
ทั้งนี้ตามกำหนดวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) พระสุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย สาขานครซิดนีย์ จะต้องเข้าให้ปากคำกับดีเอสไอเป็นรายต่อไป ซึ่งพระสนิทวงศ์ยืนยันว่า พระสุธรรม สุธัมโม จะเดินทางไปให้ปากคำกับดีเอสไออย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร