*เตือน!อย่าตกเป็นเหยื่อข้อมูลสุขภาพเท็จในโลกออนไลน์*

03 สิงหาคม 2559, 14:41น.


ในการเปิดเวทีความร่วมมือวางกรอบการใช้โซเชียลมีเดียของบุคคลากรด้านสุขภาพและสาธารณสุข ป้องกันการโพสต์ แชร์ "เปลี่ยนโลกออนไลน์ ให้ปลอดการละเมิดสิทธิสุขภาพ" พบว่า ตัวเลขการสำรวจเมื่อปี 2557 ไตรมาสที่ 2 มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่เข้าอินเตอร์เน็ตได้ในประเทศไทยมีถึง 94 ล้านเครื่อง และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกประมาณ 2-3 ล้านเครื่องต่อไตรมาสโดยโซเชียลมีเดียที่คนนิยมใช้มากที่สุด คือเฟซบุ๊กมีผู้ใช้ 30 ล้านคน ยูทูปมีผู้ใช้ 26.5 ล้านคน ทวิตเตอร์ มีผู้ใช้ 4.5 ล้านคน และอินสตาแกรม 1.7 ล้านคน และล่าสุดนิยมใช้ไลน์มากขึ่น การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเร็วทำให้ทุกคนสามารถเป็นผู้สื่อสารได้ง่ายและเร็ว แต่ไม่มีการกลั่นกรอง ทำให้มีปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนมากขึ้น โดยเฉพาะด้านสุขภาพ ปัจจุบันประชาชนการโพสต์ภาพเกี่ยวกับผลการตรวจสุขภาพ รูปครอบครัวในห้องคลอด รูปผู้ป่วยประกอบการขอรับบริจาคเงิน เลือด และอวัยวะ รวมถึงการบันทึกภาพและเสียงระหว่างการรักษา อาจละเมิดสิทธิผู้ป่วยโดยไม่รู้ตัว ผิดตามมาตรา 7 พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท



นพ.พลวรรธ พิทยพันธ์ ผอ.ศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทุกคนมีโอกาสถูกละเมิดสิทธิได้ แม้แต่กระทรวงเองยังถูกปลอมข้อมูลเว็บไซต์แล้วนำภาพของผู้ป่วยมาตัดต่อเพื่อให้คนเข้ามาคลิกอ่านแล้วนำยอดคลิกไปหาโฆษณา ซึ่งปีนี้ถูกปลอมเว็บมา 3 ครั้งแล้ว ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริหารเห็นความสำคัญ มีการตั้งกรรมการขึ้นมาดูแลข้อมูลโดยเฉพาะ ดังนั้นจะเห็นว่าเรื่องสำนึกของคนเป็นเรื่องสำคัญมาก การมีกฎข้อบังคับก็เป็นเรื่องที่ดี แต่จะเป็นการบีบให้สิทธิของคนน้อยลงหรือไม่ ขนาดพื้นที่บนโซเชียลฯ ยังโดนจำกัดอนาคตอาจจะทำให้มีการหันไปใช้วิธีการอื่นๆ อีกก็ได้



ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิกการแพทย์ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เจ้าของเพจ "หมอแล็บแพนด้า" กล่าวว่า ขณะนี้มีการแชร์ข้อมูลสุขภาพจำนวนมากบนโซเชียลมีเดีย ประมาณร้อยละ 80-90 เป็นเรื่องที่ไม่จริง แต่ก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะประชาชนมักจะเชื่อข้อมูลเหล่านี้เพราะทำง่ายกว่าการไปหาหมอ บรรดาหมอจึงต้องคอยหาข้อมูลมาตามแก้ข้อมูลที่ผิด ข้อมูลที่เป็นการจับแพะชนแกะเหล่านี้ เช่นการป่วยเป็นโรคมะเร็งกำลังจะไปหาหมอ แต่มาเจอข้อมูลว่ากินน้ำมะนาวผสมโซดารักษาโรคได้ก็หันมากินตัวนี้แทนที่จะไปหาหมอ ทำให้โรคมะเร็งลุกลามเพราะไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง 

ข่าวทั้งหมด

X