มีชัยเผยกรธ.ไม่โดดเดียว หากร่างรธน.ไม่ผ่าน/ลูกพรรคปชป.รับร่างรธน./ญี่ปุ่นออกม.กระตุ้นศก.

02 สิงหาคม 2559, 18:51น.


*สรุปข่าว 19.35น*



++++ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการออกเสียงประชามติ 7 สิงหาคม 2559 ว่า การที่ทาง กรธ. จะมีกำหนดการออกรายการโทรทัศน์ในวันที่ 4-5 สิงหาคมนี้ โดยทราบว่าเป็นการออกไปตอบคำถามที่ประชาชนจะโทรศัพท์เข้ามา ซึ่งตอนนี้ใกล้ถึงวันประชามติแล้ว อะไรที่ กรธ.ทำได้ ก็ต้องทำ ส่วนกรณีที่ประชาชนบางส่วนยังไม่ทราบเนื้อหานั้น นายมีชัยเชื่อว่ากว่าร้อยละ 80 รับทราบสาระสำคัญแล้วผ่านเอกสารเล่มเล็กที่แจกจ่ายในทุกพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้ ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการบิดเบือนเนื้อหาสาระ  โดยแสดงความใเป็นห่วงเกี่ยวกับบ่อนการพนันในต่างประเทศที่มีการตั้งราคาพนันกันเรื่องการออกเสียงประชามติ ซึ่งในที่สุดผลร้ายก็จะตกอยู่กับประชาชน ส่วน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่า นายกรัฐมนตรีไม่ต้องรับผิดชอบ หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านนั้น กรธ. ก็ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ถือเป็นคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกัน ส่วนความกังวลเรื่องการสร้างสถานการณ์ เชื่อว่าการตัดสินใจอยู่ที่ความตื่นรู้ของประชาชนเป็นหลัก เชื่อว่าประชาชนรู้จักปกป้องสิทธิของตัวเองมากขึ้น อย่างกรณีที่มีการบิดเบือนในโซเชียลมีเดีย ที่ประชาชนเข้าไปช่วยกันแก้ต่างในประเด็นที่บิดเบือน ซึ่งเรื่องนี้จะสอนให้นักการเมืองบางพวกรู้ว่าการหลอกลวงประชาชนไม่ได้ผลเสมอไป ส่วนที่ฝ่ายการเมืองบอกว่าหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านจะมีปัญหาตามมาภายหลังนั้น ปัญหาบางเรื่องก็ไม่ได้แก้ง่ายเหมือนเปิดสวิตช์ไฟ แต่กรธ. ก็เขียนช่องทางแก้ปัญหาต่างไว้มากแล้ว ดังนั้น หากผลออกมาร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านเพราะการรณรงค์ของพรรคการเมือง พรรคการเมืองก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ



+++พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดชผบก.กองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ เปิดเผยว่า หลังนำตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวโยงกระทำความผิดเผยแพร่จดหมายในลักษณะบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญในหลายพื้นที่ภาคเหนือมาที่กองปราบปราม ช่วงวันที่12-15 ก.ค.  เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้รับแจ้งจากที่ทำการไปรษณีย์ว่า พบจดหมายลักษณะเป็นพิรุธ ถูกส่งลงในตู้ไปรษณีย์หลายจุดในพื้นเขตพื้นที่ จ.ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ทั้งนี้ ทางกกต.ได้นำจดหมายไปตรวจสอบพบว่ามีเนื้อหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงาน สภ.แม่ปิง เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่จัดทำจดหมายขึ้นมา จนนำไปสู่การสืบสวนสอบสวน และจากการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ยืนยันว่า นายวิศรุต คุณะนิติสาร เป็นหนึ่งในผู้กระทำ ซึ่ง นายวิศรุต ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และนำไปสู่การขยายผลจนนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด หลังจากสืบสวนทำให้ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้บงการ 2.กลุ่มพิมพ์เอกสารจ่าหน้าซอง และผลิตจดหมาย 3.กลุ่มผู้ส่งจดหมาย และ 4.กลุ่มผู้ช่วยเหลือซ่อนเร้น ประกอบด้วย น.ส.ธารทิพย์กับพวก ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้การสนับสนุนกลุ่มส่งจดหมายให้หลบหนี ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 12 คน ได้เดินทางไปถึงที่กองบิน 41 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนนำตัวทั้งหมดขึ้นรถตู้ไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อทำการสอบสวน โดยแยกห้องแต่ละคนสอบปากคำ จากนั้นจะให้นอนค้างคืนที่ตึกสอบสวน ก่อนที่พรุ่งนี้ (3 ส.ค.) จะมีการนำตัวไปฝากขังที่ศาลทหาร มทบ.33 ค่ายกาวิละ.



+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต.แถลงเชิญชวนประชาชนมีส่วนร่วมด้วยการร่วมสังเกตการณ์การออกเสียงประชามติในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึงเวลา 16.00 น. ซึ่งหากประชาชนพบเห็นสิ่งผิดปกติ เช่น กรรมการประจำหน่วยตั้งบอร์ดนับคะแนนไกลเกินไป อ่านคะแนนเสียงเบา นับคะแนนเร็วไป หรือการวินิจฉัยว่าเป็นบัตรดี บัตรเสีย ก็สามารถทักท้วงได้ เมื่อนับคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว เชิญชวนประชาชนถ่ายรูปผลคะแนน แล้วโพสต์เฟซบุ๊กพร้อมติดแฮชแทค #ผลประชามติ เพื่อให้ทุกคนเข้าไปดูได้ว่าการออกเสียงประชามติเป็นไปอย่างสุจริต และเที่ยงธรรม และเมื่อกกต.ประกาศผลอย่างเป็นทางการก็สามารถนำภาพมายืนยันได้ ขณะเดียวกัน กกต.ได้ผลิตหีบบัตรออกเสียงประชามติรูปแบบใหม่ เตรียมนำมาใช้กับการออกเสียงครั้งนี้จำนวน 5 หมื่นหน่วย จาก 95,000 หน่วย มีอายุการใช้งาน 10 ปี รับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม ทนความร้อนได้ 56 องศาเซลเซียส ราคาต้นทุนใบละ 244 บาท ต่ำกว่าราคากลาง 6 บาท หลังจากแถลงข่าวเสร็จนายสมชัยได้สาธิตความทนทานของหีบบัตรออกเสียงให้สื่อมวลชนได้เห็นถึงความแข็งแรง ปรากฎว่า หลังจากนายสมชัยโยนไปประมาณ 4 ครั้ง หีบบัตรออกเสียงดังกล่าวก็แตก ก่อนการสาธิต นายสมชัยได้ยืนยันกับสื่อมวลชนว่าหีบบัตรออกเสียงมีความทนทานทนกับทุกภาวะจะกระแทกแรงอย่างไรก็สามารถที่จะทนทานได้



+++นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ว่า ตนรับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะได้อ่านรัฐธรรมนูญทั้งหมดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เห็นว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดในสถานการณ์นี้ ส่วนการที่มีคนมองศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สามารถเปิดช่องให้จำเลยอุทธรณ์ได้นั้น มองว่าเป็นหลักสากลที่เราเรียกร้องกันมานาน ก็อยากให้มองอีกมุมที่น่าสนใจ คือถ้าจำเลยยื่นอุทธรณ์ ทางอัยการก็สามารถอุทธรณ์กลับได้เช่นกัน ถือว่าเป็นธรรมและรัดกุมทั้งสองฝ่าย  และแม้ร่างรัฐธรรมนูญนี้จะแก้ยากก็จริง แต่หากในอนาคตต้องแก้ไขเพื่อให้ส่วนรวมเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เชื่อว่าเราสามารถทำได้ ส่วนการรับร่างรัฐธรรมนูญ จะเป็นการสวนทางกับจุดยืนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ ที่ไม่รับร่าง  นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ตนรับร่างเพราะอ่านรัฐธรรมนูญแล้วเห็นว่าดีที่สุดในขณะนี้เท่านั้น ไม่มีเหตุผลอื่น นี่คือสิ่งที่ดีสำหรับพรรคปชป.เพราะไม่ว่าเราจะเห็นแตกต่างกันอย่างไร เขาก็จะไม่ว่าอะไร พรรคนี้ไม่มีอะไรที่ต้องเห็นตรงกันทั้งหมด นายอภิสิทธิ์มีความเป็นลูกผู้ชายเต็มที่ในการรับฟังความเห็นที่หลากหลายของคนในพรรคปชป



+++ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้มอบอำนาจให้นายสัก กอแสงเรือง ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน อายุ 64 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 จากกรณีการตรวจสอบโครงการไฟประดับมูลค่า 39,500,000 บาทนั้นซึ่งการยื่นฟ้องเป็นโจทก์เป็นการส่วนตัว ไม่ได้ใช้ตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.พ่วงเข้าไป เหมือนกับ นายพิศิษฐ์ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยื่นฟ้องเป็นจำเลยนั้นก็ฟ้องส่วนตัว ไม่ได้ฟ้องพ่วงว่าเป็นผู้ว่าสตง. นอกจากนี้ กรณีที่นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯกทม. ที่จะยื่นฟ้องร้องต่อศาลอาญาเป็นการส่วนตัวโดยจะฟ้องร้อง นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีตส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ ในฐานกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา โดยนายอมรจะให้ทนายคนเดิมเป็นผู้ยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลอาญาภายในสัปดาห์นี้



+++ด้าน นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ทราบเบื้องต้นเท่านั้นว่ามีการฟ้อง แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด มองว่าจะฟ้องส่วนตัวหรือหน่วยงานก็ไม่แตกต่างกัน การทำงานของ สตง.นั้นเพื่อตอบคำถามของสังคมที่มีความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องการใช้งบประมาณ เพราะหน่วยงานรัฐใช้เงินงบประมาณของแผ่นดินซึ่งมาจากประชาชน การใช้เงินจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่มีความลับ และการเปิดเผยข้อมูลของ สตง.เป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งตามหน้าที่ สตง.ก็ดำเนินการตรวจสอบหน่วยงานรัฐ



++++พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมรายงานให้นายรัฐมนตรีรับทราบถึงตัวเลขความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) โดยที่ประชุมครม.ในวันนี้ ม.ล.ปนัดดาไม่ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้นายกฯรับทราบในที่ประชุม เพียงแค่ระบุว่าตัวเองถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากหลังจากออกมาเปิดเผยถึงตัวเลขความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดย ม.ล.ปนัดดาไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหา เพราะเป็นตัวเลขที่อยู่บนพื้นฐานของการรายงานของนายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นใครจะต่อว่าอย่างไร แต่ม.ล.ปนัดดายังยึดอยู่บนพื้นฐานของความจริงและผลประโยชน์ของประเทศชาติ



+++นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมพิจารณารับผิดทางแพ่ง ที่มีนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็น ประธาน กำลังพิจารณาเรียกค่าเสียหายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ของความเสียหายในการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าว 280,000 ล้านบาท ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมพิจารณาความเสียหายและส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังดำเนินการในฐานะผู้ได้รับความเสียหาย นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ประชุมคณะกรรมการรับผิดทางแพ่งพิจารณากรณีดังกล่าวหลายครั้ง แล้วว่าอดีตนายกทำผิดส่งผลให้เกิดความเสียหายจริงหรือไม่ หากทำผิดคิดเป็นความเสียหายเท่าไร จะเท่าหรือมากน้อยกว่า 280,000 ล้านบาทที่สำนักนายกรัฐมนตรีตรวจสอบมาหรือไม่ยังสรุปไม่ได้คาดว่าต้องประชุมคณะกรรมการอีก 1-2 ครั้ง โดยการดำเนินการให้ชดใช้ค่าเสียหายครั้งนี้ เป็นการออกสั่งปกครองให้ชดใช้ค่าเสียหาย หากผู้ที่ต้องชดใช้ไม่เห็นด้วย ก็สามารถไปฟ้องศาลปกครองให้ยกเลิกการออกคำสั่งปกครองดังกล่าวได้



 



+++พ.ต.อ.กิจภัท เพ็งรุ่ง รอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 พร้อมด้วย ร.ต.ท.ประเสริฐ มีสุข รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ลำผักชี น.ส.วีณา นุสดิน หัวหน้ากลุ่มคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยาน ในราชอาณาจักร กรมการบินพลเรือน และเจ้าหน้าที่จากบริษัทแรบบิท วิงส์ แอร์เวย์ ร่วมกันเข้าตรวจสอบเครื่องบินเล็กแบบเหมาลำ "ไพเพอร์ ชิพเท่น" (Piper Chieftain ) รุ่นHS-FGB ของบริษัทแรบบิท วิงส์ฯ ที่ประสบอุบัติตกลงในคลองหลังวัดลำพะอง เบื้องต้นยังไม่ได้ขอสรุปสาเหตุ เนื่องจากเป็นเครื่องบินขนาดเล็กจึงไม่มีกล่องดำ ด้าน น.ส.วีณา เปิดเผยว่า วันนี้ได้เข้ามาตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ เพื่อจะนำไปทำภาพจำลองสถานที่ รวมไปถึงการคำนวณความเร็ว การลดระดับการบิน และระยะทางที่มีความสัมพันธ์กัน เพื่อหาความพกพร่องของเครื่องบิน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะต้องรอการวิเคราะห์ให้รอบด้านก่อน จากการตรวจสอบพบว่าเครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินขนาดเล็ก จึงไม่มีกล่องดำในการจำภาพ และรายละเอียดขณะเกิดเหตุ



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,497.51 จุด ลดลง 15.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,243.11 ล้านบาทหลังเจอ take profit ก่อนลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศที่ต่างก็เจอ take profit เหมือนกัน โดยต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ ซึ่งก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย และไม่น่าจะมีผลต่อตลาดฯ อีกทั้งให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันที่ 4 ส.ค.



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการในวันนี้ ลดลง 244.32 จุด แตะที่ 16,391.45 จุด



++++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงวันนี้ปิดทำการเพราะถูกพายุไต้ฝุ่นนิดา พัดถล่ม



+++คณะรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ อนุมัติมาตรการทางการเงินมูลค่า 13.5 ล้านล้านเยน (132,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในวันนี้ ตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังชะงักงัน เพื่อกระจายให้กับผู้มีรายได้น้อยและกระตุ้นการใช้จ่ายภาคสาธารณูปโภค แผนกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงงบ 7.5 ล้านล้านเยนสำหรับการใช้จ่ายของรัฐบาลและในระดับท้องถิ่น และงบ 6 ล้านล้านเยนสำหรับโครงการเงินกู้และส่งเสริมการลงทุน ซึ่งไม่รวมในงบประมาณทั่วไปของรัฐบาล แผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามครั้งใหม่ของรัฐบาลที่จะประสานนโยบายกับธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) แต่มีความกังวลกันมากขึ้นว่าบีโอเจใช้นโยบายมาจนถึงขีดจำกัดแล้ว ซึ่งส่งผลให้เกิดการเทขายพันธบัตรรัฐบาลมากที่สุดในรอบ 3 ปี



+++ทางการคูเวตปรับขึ้นราคาน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีตามประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากราคาน้ำมันทั่วโลกลดลง สะเทือนงบประมาณทั่วประเทศในภูมิภาค คณะรัฐมนตรี คูเวตประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยน้ำมันเกรดพรีเมียมเพิ่มขึ้นร้อยละ 83 เริ่มตั้งแต่ 1 กันยายนนี้ ส่วนน้ำมันชนิดที่ถูกที่สุดของคูเวตจะปรับราคาขึ้นร้อยละ 41 และน้ำมันเกรดปานกลางจะขึ้นราคาร้อยละ 61 ก่อนหน้านี้บาห์เรน โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่างขึ้นราคาน้ำมันกันแล้ว ท่ามกลางราคาน้ำมันโลกดิ่งลงมาอยู่ที่ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X