หลังแรงงานชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก เพราะหมดสัญญา และเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ ถูกต้อง ที่ภาครัฐเข้ามาเข้มงวดเรื่องแรงงานต่างด้าว ดึงแรงงานที่ผิดกฎหมายมาเข้าระบบให้ถูกต้อง เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคง ปัญหาสังคม และการค้ามนุษย์ แต่ภาครัฐจะต้องสยบข่าวลือให้ได้ โดยประชาสัมพันธ์ไปยังประเทศกัมพูชา และในประเทศไทย ให้ทุกฝ่ายทราบว่าเป็นนโยบายการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวทุกชาติอย่างเสมอภาค ไม่ได้เจาะจงเพียงชาวกัมพูชา ซึ่งหากเป็นการเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง ก็จะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด.
ขณะนี้ ส.อ.ท.อยู่ระหว่างการประเมินข้อมูลถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น เบื้องต้นผลกระทบที่เกิดขึ้น จะอยู่ในภาคธุรกิจที่ใช้แรงงานชาวกัมพูชาเป็นจำนวนมาก ได้แก่ อุตสาหกรรมก่อสร้างต่างๆ แต่มองว่าจะกระทบไม่มาก เพราะในปีนี้อุตสาหกรรมก่อสร้างอยู่ในขาลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ยังไม่ต้องการแรงงานต่างด้าวมากนัก ส่วนอุตสาหกรรมประมงในพื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบโดยตรง รวมถึงธุรกิจการเกษตร เช่น การทำสวนยางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร
ปัจจุบันนี้ มีแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย ประมาณ 2.2 ล้านคน และมีแรงงานที่ผิดกฎหมายมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งในจำนวนกว่า 1 ล้านคน ที่เข้าเมืองมาทำงานอย่างผิดกฎหมายนี้ ร้อยละ 80 เป็นแรงงานจากพม่า กัมพูชา ร้อยละ15 และ สปป.ลาว อีกประมาณ ร้อยละ5 โดยแรงงานกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทย มีจำนวนมากที่เข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานต่างๆ และค่านายหน้าในประเทศกัมพูชาสูงมาก ทำให้เกิดการลักลอบเข้ามาทำงานในไทย เพื่อลดค่าดำเนินงานต่างๆ