นายจอห์น แคร์รี รมว.กต.สหรัฐฯ แสดงความกังขากรณีรัสเซียประกาศว่า จะเปิดเส้นทางมนุษยธรรมให้ประชาชนซีเรียและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่ยอมจำนน เดินทางออกจากเมืองอเลปโป ทางตอนเหนือของซีเรีย ได้ 3 เส้นทาง หลังจากเมืองดังกล่าว โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองอเลปโปตกอยู่ในวงล้อมการโจมตีอย่างหนักของรัฐบาลซีเรียมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยนายแคร์รีเกรงว่า ข้อเสนอของรัสเซียจะเป็นหลุมพราง เนื่องจากรัสเซียเป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลซีเรีย อย่างไรก็ดี นายสตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ทูตพิเศษของสหประชาชาติ เห็นว่า รัสเซียควรปล่อยให้สหประชาชาติทำหน้าที่ควบคุมเส้นทางปลดปล่อยประชาชนซีเรียที่ตกอยู่ในวงล้อมราว 300,000 คน
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากสถาบันวิชาการไอริสของฝรั่งเศสชี้ว่า ขณะนี้ประชาชนซีเรียในเมืองอเลปโปตกอยู่ภาวะต้องเลือกตัดสินใจว่า จะอยู่ในวงล้อมการโจมตีในเมืองอเลปโป ซึ่งจะต้องเสี่ยงกับสภาพอดอยาก หรือจะเสี่ยงตายใช้เส้นทางดังกล่าวหลบออกมาจากเมืองอเลปโป
ก่อนหน้านี้ กลุ่มสังเกตการณ์ความขัดแย้งในซีเรียรายงานว่า มีผู้อยู่อาศัยในเมืองอเลปโปเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถออกมาจากเขตยึดครองของรัฐบาลซีเรียได้ เนื่องจากเครื่องบินของรัฐบาลทิ้งระเบิดใส่พื้นที่ตะวันออกของเมืองอเลปโปและอาตาเรบอย่างหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน แม้แต่โรงพยาบาลผดุงครรภ์แห่งหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรช่วยเหลือเด็ก หรือ Save the Children ยังถูกทิ้งระเบิด ระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใน จ.อิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน เด็กทารกบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง และก่อความเสียหายใหญ่หลวง
ทีมต่างประเทศ
CR:AP,AFP