+++พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในที่ประชุมสภากลาโหมที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ช่วงการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่ามีศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยสนับสนุนการดำเนินการตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ของกระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่ดูแลเป็นหลัก รวมถึงมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำหน้าที่อยู่แล้ว ในส่วนของทหารจะเป็นหน่วยสนับสนุนเท่านั้น รวมถึงการดูแลเรื่องความโปร่งใส และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากระบวนการขัดขวางการลงประชามติ ยืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องส่งทหารไปประจำหน่วยออกเสียงประชามติ จะดูแลในภาพรวมเท่านั้น
+++กรณีที่มีการจับกุมคนที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่จดหมายโจมตีร่างรัฐธรรมนูญที่จ.เชียงใหม่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ได้เห็นจดหมายแล้ว โดยความเห็นส่วนตัวตนเห็นว่าข้อความที่ปรากฏในจดหมายเป็นข้อมูลเท็จ โน้มน้าวโจมใจบุคคล กกต.เชียงใหม่ ได้แจ้งความดำเนินคดี จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายบ้านเมืองที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งสุดท้ายศาลจะเป็นผู้ตัดสิน ถ้าหากการกระทำดังกล่าวมีเกิน5คนก็จะมีโทษที่หนักขึ้น ตามมาตรา 61 วรรคสาม ของพ.ร.บ.ประชามติ กกต.เชียงใหม่ ไม่ได้รายงานไปถึงตัวบุคคลว่าใครเป็นผู้กระทำ แค่รายงานว่ามีการเผยแพร่จดหมายดังกล่าว พูดถึงแค่ตัวจดหมาย
+++นายสมชัย กล่าวถึงกรณีที่ผู้ปกครองเด็ก 9 ขวบ พาเด็กที่ฉีกบัตรบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงย้ายบ้านหนีเนื่องจากเกรงความผิดว่า เรื่องดังกล่าว สังคมสงเคราะห์และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องเข้าไปดูแลเพราะคนที่โดนคดีเป็นเด็ก ส่วนข้อสงสัยที่ว่าการที่มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นรายวันจะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งก็จะเกิดกรณีดังกล่าว ขอให้สังคมพยายามแยกแยะว่าอะไรผิดไม่ผิด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีใครกลั่นแกล้ง แต่เป็นสิ่งที่กำหนดในกรอบกฎหมาย
+++นายสมชัย กล่าวว่า ผลการลงประชามติครั้งนี้ กลัวว่าจะไม่จบ มองว่า หากมีคะแนนชนะกันเกิน 1 ล้านเสียง หลังจากการลงประชามติแล้ว ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่หากชนะกันไม่ถึง 1 ล้านเสียง ก็ต้องไปลุ้นกัน 3 วันหลังวันออกเสียง ที่จะมีการรายงานผลประชามติอย่างเป็นทางการ
+++หลังจากที่ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร , น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย , น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย , นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรรมสรรพากร และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดของเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ป.ป.ช. สรุปว่า จำเลยที่ 1-4 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของกรมสรรพากร ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อไม่ให้ นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่ต้องเสีย กกรณีที่ทั้งสองคนซื้อหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549 คนละ 164,600,000 หุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาตลาดอยู่ที่หุ้นละ 49.25 บาท ซึ่งทั้งสองคนมีหน้าที่ต้องเสียภาษีของส่วนต่างราคาหุ้น คนละ 7,941,950,000 บาท จึงทำให้กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และราชการเสียหาย คดีนี้จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
+++ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ได้ประโยชน์จากส่วนต่างการซื้อหุ้น จึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีส่วนต่าง พิพากษาว่า จำเลยที่ 1-4 มีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 83 ให้จำคุกคนละ 3 ปี ส่วนจำเลยที่ 5 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ให้จำคุก 2 ปี โดยไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ
+++ญาติและทนายความจำเลย ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยจำเลยที่ 1-4 ยื่นหลักทรัพย์เป็นหนังสือรับรองการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ต้องหาคดีของกรมสรรพากร วงเงินไม่เกินคนละ 4.2 แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 5 ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 แสนบาท เพื่อต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ ศาลอาญา พิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทั้งห้าประกันตัวไป ระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกันคนละ 3 แสนบาท และไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใดๆ จากนั้นนางเบญจา กับพวกได้เดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์
+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยอมรับว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบางและมีความไม่แน่นอนสูง เป็นสาเหตุหลักทำให้การส่งออกไตรมาส 2 กลับมาติดลบร้อยละ 4.1 จากไตรมาสก่อนหน้าขยายตัวร้อยละ 0.9 จึงปรับลดตัวเลขการส่งออกปี 2559 จากติดลบร้อยละ 0.7 เป็นติดลบร้อยละ 1.9 เชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังขยายตัวได้ร้อยละ 3.3 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 2.8 เนื่องจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐขยายตัวในระดับสูง โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งระยะเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมที่ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนและรัสเซีย ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องขยายตัวตามไปด้วย ทั้งธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร ธุรกิจขนส่ง และธุรกิจค้าส่งค้าปลีก
+++ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,524.58 จุด เพิ่มขึ้น 9.18จุด มูลค่าการซื้อขาย 66,884.69ล้านบาท นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์ 3 ประเด็นใหญ่ คือ 1.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)คาดการณ์จีดีพีในไตรมาส2โตร้อยละ 3.3 ซึ่งดีกว่าไตรมาสที่ 1 ที่โตร้อยละ 3.2 และอาจมีการปรับเป้าจีดีพีใหม่ทั้งปี จึงส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ที่น่าจะปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ประเด็นที่ 2 คือ ปตท.สผ.มีผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ออกมาดีเกินคาด สามารถดันหุ้นกลุ่มพลังงานด้วย และประเด็นที่ 3. คือกระแสเงินทุนไหลเข้ายังคงเข้าประเทศไทยต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรระมัดระวังบ้างหากดัชนีอยู่ในระดับ1,530 จุด ก็ให้เทขายทำกำไรบ้างเพื่อลดความเสี่ยง
+++วันนี้ บริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ถึงกรณีเหตุไฟไหม้โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขาปิ่นเกล้า โดยพื้นที่ดังกล่าวบริษัทได้เช่าจาก หจก. เวล เอนเตอร์เทนเมนท์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลาประมาณ 13.30 น. เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดเพลิงไหม้ บริษัทอยู่ระหว่างประเมินมูลค่าความเสียหาย แต่อย่างไรก็ตามทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้รับความเสียหายอยู่ในความคุ้มครองของบริษัทประกันภัย โดยบริษัทยังดำเนินกิจการได้ ตามปกติและมีความมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของบริษัทอย่างมีสาระสำคัญ สำหรับราคาหุ้น MAJOR หรือ บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ปิดราคาที่ 34.00 บาทลดลง 0.75 บาทหรือลดลงร้อยละ 2.16
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้อ่อนตัวลง ลดลง 44.65 จุด ปิดที่ 22,174.34 จุด
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดร่วงลงในวันนี้ลดลง 187.98 จุด ที่ 16,476.84 จุด
+++หลังจากไต้ฝุ่นมีรีแนขึ้นฝั่งในเช้าวันนี้ที่เวียดนาม ได้สร้างความเสียหายก่อนที่ไต้ฝุ่นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ไต้ฝุ่นทำให้เกิดฝนตกหนัก ทางการเตือนว่าอาจเกิดน้ำท่วมหนัก เฉพาะที่กรุงฮานอย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ บาดเจ็บ 5 คน เพราะกระแสลมแรงทำให้บ้านหลังหนึ่งพังถล่มเมื่อกลางดึก ท่าอากาศยานนานาชาติในกรุงฮานอย ยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออก ขณะที่สถานีโทรทัศน์วีทีวีแพร่ภาพถนนหนทาง มีน้ำท่วมสูงเกือบครึ่งเมตร ส่งผลกระทบต่อการจราจร ส่วนพื้นที่ที่มีลมพัดแรงถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ต้นไม้และเสาไฟฟ้า 2 ข้างทางล้มระเนระนาด และมีเรือประมง 7 ลำอับปาง ทั้งที่จอดทอดสมอไว้ที่ท่าเรือ
+++รอยเตอร์ รายงาน อ้างนายหยาง หยู่จุน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนว่า กองทัพเรือจีนและรัสเซีย จะจัดซ้อมรบในทะเลจีนใต้ในเดือนกันยายนนี้ การซ้อมรบร่วมระหว่างนาวิกโยธินจากทั้งสองประเทศ เพื่อพัฒนาความร่วมมือในเชิงยุทธศาสตร์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ไม่ได้มุ่งเพื่อโจมตีประเทศใดโดยเฉพาะ ที่ผ่านมาบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวันและเวียดนามต่างอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกับจีน นอกจากนี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางเรือมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี จีนกล่าวหาสหรัฐฯว่ายั่วยุให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ด้วยการแล่นเรือลาดตระเวนเข้าไปใกล้น่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้อยู่เป็นประจำและกล่าวหาสหรัฐฯว่าเข้าข้างประเทศคู่ขัดแย้งกับจีน
+++การซ้อมรบดังกล่าวมีขึ้นในเวลาที่ถือว่ามีความตึงเครียดสูงมากในน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้หลังศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ มีคำชี้ขาดในเดือนนี้ว่า จีนไม่สามารถอ้างว่าครอบครองอาณาเขตส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้มาตั้งแต่ยุคโบราณ พร้อมวิจารณ์เรื่องการทำลายสภาพแวดล้อมในอาณาเขตพิพาท รัฐบาลจีนไม่ยอมรับคำชี้ขาดและไม่ได้เข้าร่วมในกระบวนการพิจารณาของศาลด้วย