หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวจีนรณรงค์บอยคอตเที่ยวภาคเหนือ ของประเทศไทย ว่า เพราะว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่นอีกทั้ง ปัจจุบันมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้กว่าและค่าใช้จ่ายถูก ซึ่งนายกรัฐมนตรีของจีนก็เป็นห่วงว่าคนไทยจะไม่ชอบนักท่องเที่ยวจีน ส่วนตัวก็ได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้วว่าไม่เป็นความจริง โดยหน้าที่ของไทยคือการดูแลความปลอดภัย เป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้องเคารพกฎหมายซึ่งกันและกัน ไม่สร้างความเกลียดชัง
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้ให้นโยบายให้เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับประเทศต่างๆอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องทำแคมเปญเพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวจีน การที่นักท่องเที่ยวลดลงไม่ใช่เพราะรัฐบาล แต่เพราะไม่มั่นใจในเสถียรภาพ จึงอยากถามคนในชาติต้องการอะไร
ส่วนร่างพระราชบัญญัติสรรพสามิต ขณะนี้ทางกระทรวงการคลังกำลังดำเนินพิจารณาศึกษาก้อนจะส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการปรับปรุงพ.ร.บ. สรรพสามิต เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของสังคมโลกและภาระที่รัฐบาลต้องแบหรับค่าใช้จ่ายไว้ ไม่ได้ต้องการขูดรีบภาษีจากประชาชนแต่อย่างใด
สำหรับการลงพื้นที่ภาคใต้เมื่อวานนี้ เป็นการย้ำถึงเดินหน้าสันติสุขอย่างยั่งยืน และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการแก้ปัญหา แม้ว่าจากสถิติความรุนแรงลดลง แต่รัฐบาลไม่สามารถประมาทจึงต้องแสวงหาทางออกที่ดีที่สุด นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่ทางการสหรัฐอเมริกาจับกุมนายวีระพล สุขผล อดีตพระเณรคำ ว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ กำลังประสานงานในการนับตัวเณรคำมาดำเนินคดี ซึ่งต้องขึ้นอยู่ว่าทางการสหรัฐจะดำเนินการส่งตัวมาให้เมื่อใด