+++ก่อนวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 7 สิงหาคม นี้ พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฝากชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และพลเรือนทั่วประเทศ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองก่อนถึงวันออกเสียงลงประชามติ 7 ส.ค. อย่างเต็มกำลังโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมีผู้ที่ไม่หวังดีคอยสร้างสถานการณ์ขัดขวางการเดินหน้าประเทศตามโรดแมปที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบหรือจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ ก็มักจะมีบุคคลบางกลุ่มรีบออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง ทั้ง ๆ ที่มีหลายพฤติการณ์ซึ่งสะท้อนว่า มีความสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของคนเหล่านั้น หรือบางครั้งก็กล่าวหาว่ารัฐบาลจัดฉาก เพื่อโยนความผิดให้แก่พรรคพวกของตัวเอง จึงอยากให้พี่น้องประชาชนช่วยกันตรึกตรองดูว่า หากรัฐบาลทำเช่นนั้นจะคุ้มค่าหรือไม่ เพราะเท่ากับเป็นการสร้างปัญหาให้กับตัวเอง แต่ในทางตรงกันข้าม สังคมจะต้องร่วมกันพิจารณาว่า เราจะเชื่อถือหรือไว้ใจคนที่ก่อความวุ่นวายได้หรือไม่ และจะฝากอนาคตของประเทศชาติไว้กับคนเหล่านี้ได้มากน้อยเพียงใด
+++พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการออกเสียงประชามติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศรส.ปต.ตร.) เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วง 3 จังหวัดชายแดนใต้มากที่สุด เนื่องจาก เกรงว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบความเรียบร้อยสัปดาห์หน้า และในส่วนของภาคเหนือ ก็มีความเป็นห่วงการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองเก่าอย่างเป็นขบวนการที่มีการต่อต้าน บิดเบือนข้อมูล กุข่าว เช่น การแจกใบปลิว โดยมีพยานวัตถุชัดเจน โดยได้เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 5 คน
+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึง การรายงานผลคะแนนการออกเสียงประชามติในวันที่ 7 ส.ค. ว่า สำหรับการนับคะแนน ยืนยันว่ายังมีการนับคะแนนและเปิดเผยคะแนนที่หน้าหน่วยออกเสียงเหมือนเช่นการเลือกตั้ง ซึ่งการมีกระแสข่าวว่าไม่มีการนับคะแนนที่หน้าหน่วยเป็นข้อมูลที่ผิด ไม่เป็นข้อเท็จจริง สำหรับการรายงานผลคะแนน แบ่งเป็นสองส่วน อันดับแรกรายงานผลคะแนนอย่างเป็นทางการ ที่จะใช้เวลาประมาณ 3 วัน หลังจากวันออกเสียง จึงจะทราบผลเนื่องจากต้องรอเอกสารทุกชิ้นและตรวจสอบความถูกต้อง
+++ส่วนการรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการ กกต.ได้ทำแอพพลิเคชั่นให้กรรมการประจำหน่วยแต่ละหน่วย เพื่อให้ส่งคะแนนจริงผ่านแอพพลิเคชั่นมายังส่วนกลางแบบรายงานสดหรือเรียลไทม์ หน้าจอรายงานผลคะแนนที่สำนักงานกกต.จะแสดงคะแนนการออกเสียงประชามติ เป็นตัวเลขว่ามีผู้มาใช้สิทธิเท่าไหร่ ผลการออกเสียงเห็นชอบและไม่เห็นชอบ จะระบุชัดแยกเป็นภาค เป็นจังหวัดว่ามีจำนวนเท่าไหร่ พร้อมกับรายงานความคืบหน้าการนับคะแนนที่จะแสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์
+++มาตรฐานบริษัทการบินไทย นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของการบินไทยตั้งแต่ประเทศไทยได้รับธงแดงจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 โดยได้นำมาตรฐานขององค์การความปลอดภัยด้านการบินของสภาพยุโรป หรือ EASA มาใช้ โดยใช้ชื่อ THAI safety beyond compliance ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานสากล โดยผ่านเกณฑ์ TCO ทำให้สายการบินสามารถบินเข้ายุโรปได้
+++ส่วนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สามารถบินและเพิ่มเที่ยวบินได้ปกติ
++ประเทศจีน ประเทศที่มีธงแดงทุกสายการบินในประเทศจะต้องถูกตัดคะแนนด้านคุณภาพมาตรฐานการบินลง 5 คะแนน แต่การบินไทยยังไม่ถูกตัดคะแนน เนื่องจากตรวจสอบแล้วว่ายังได้มาตรฐาน อีกทั้งการบินไทยได้เดินทางไปทำงานพิสูจน์ทุกประเทศที่ต้องการตรวจสอบด้านการบิน ปรากฏว่าการบินไทยผ่านทุกการตรวจสอบทำให้เที่ยวบินยังคงให้บริการได้ตามปกติ เหลือเพียงที่เดียว คือ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ หรือ FAA ที่จะต้องรอให้ ICAO ปลดธงแดงของประเทศไทยลงก่อน ซึ่งเชื่อว่ารอบที่ ICAO มาตรวจอีกครั้งนั้นจะปลดธงแดงได้
+++การบินไทย วางแผนเปิดเส้นทางบินไปสหรัฐฯ ช่วงปลายปีหน้า 1 เส้นทาง ซึ่งกำลังพิจารณาและซีแอตเทิลและซานฟรานซิสโก เนื่องจากทั้ง 2 เส้นทางเป็นจุดที่จะสามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ได้ง่าย ส่วนเส้นทางบินฤดูหนาวที่จะบินเดือนตุลาคมนี้ คือ มอสโคว์และเตหะราน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศเป็นเมืองท่องเที่ยวและมีการทำธุรกิจมากขึ้น ทั้งนี้ ต้องรอดูผล
เรื่องอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป(อียู) หรือ เบร็กซิส ว่ามีผลต่อการเดินทางท่องเที่ยวของประเทศเหล่านั้นหรือไม่ แต่เชื่อว่าอาจเป็นโอกาสของประเทศไทยที่คนส่วนใหญ่มีแผนการเดินทางอยู่แล้ว ประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีใช้เงินทุนน้อย และยังไม่มีตัวเลขแน่ชัดว่ามีการลดการเดินทางของประเทศที่มีความเสี่ยงการก่อการร้ายลงหรือไม่
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ 1,512.66 จุด เพิ่มขึ้น 3.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,688.14 ล้านบาท
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดเพิ่มขึ้น 29.17 จุด ที่ 21,993.44 จุด
+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดลบ 6.96 จุด ปิดที่ 16,620.29 จุด
+++กรณีที่ทนายความวัดปากน้ำ ระบุว่า หากมีการแจ้งข้อกล่าวหากับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เรื่องผลสอบรถเบนซ์โบราณ จะฟ้องกลับพนักงานสอบสวน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิสามารถใช้สิทธิของตัวเอง ในส่วนตัวเห็นด้วยที่จะใช้กระบวนการยุติธรรมรักษาสิทธิตัวเอง ไม่ใช่วิธีนอกระบบ กรณีที่ความพยายามยืนยันว่าสมเด็จช่วง บริสุทธิ์ กระบวนการยุติธรรมต้องไปจบที่ชั้นศาล ขณะนี้ ขั้นตอนยังอยู่ที่ชั้นพนักงานสอบสวน หากพนักงานสอบสวนเห็นว่ามีความผิดและมีการกล่าวหา ผู้เกี่ยวข้องก็มีหน้าที่ต้องไปแก้ต่าง ซึ่งยังไม่ทราบเลยว่าอัยการจะสั่งฟ้องให้หรือไม่
+++กรณีของพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย ที่ต้องมีการเรียกสอบปากคำพระอีกหลายรูป ซึ่งในวันที่ 27 ก.ค. จะมีประชุมร่วมพนักงานสวนสวน เพื่อลงมติว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใดกับผู้เกี่ยวข้องบ้าง เน้นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ทำคดีด้วยความรอบคอบ
+++คดีอาชญากรรม การติดตามจับกุมนายประนอม สีสุข อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดใช้อาวุธปืนยิงด.ต.อรรณพ เครืออนันต์ ผบ.หมู่งาน ป. สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี เสียชีวิต พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษาสบ.10 เปิดเผยว่า ได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจเพื่อติดตามไล่ล่านายประนอม เสริมกำลังจากกองบัญชาการ ปส. กำลังทหาร ให้มาช่วยติดตามไล่ล่านายประนอม ต้องจับกุมให้ได้เพื่อไม่ให้กลุ่มเครือข่ายยาบ้าคนร้ายรายอื่นหึกเหิมได้ใจ
+++ความคืบหน้าคดีการโอนหุ้นเกือบ 300ล้านบาทให้นางสาวกันฐนา ศิวาธนพล พริตตี้และนางสาวอุรชา วชิรกุณฑล โปรกเกอร์สาว นางสาววันเพ็ญ ธนธรรมสิริ และ นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง พี่สาวและภรรยานายชูวงษ์ แซ่ตั้ง นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เสียชีวิตภายในรถยนต์ย่านบางนา เดินทางมาพบอธิบดีอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ นางสาววันเพ็ญ เปิดเผยว่า วันนี้มาติดตามคดีเรื่องคดีการโอนหุ้นที่ศาลได้ออกหมายจับ พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสาวกันฐนา และนางสาวอุรชา รวมทั้งนางศรีธรา พรหมา มารดานางสาวอุรชา พันตำรวจโทบรรยิน ร้องขอความเป็นธรรมอัยการได้สั่งให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม สอบเพิ่มในประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพันตำรวจโทบรรยิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กลับมาสอบเพิ่มและส่งสำนวนกลับให้อัยการแล้ว แต่อัยการยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ผ่านมาแล้วกว่า1ปี ร้องขอให้อธิบดีอัยการอาญากรุงเทพใต้และอัยการสูงสุด เร่งรัดและมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดโดยเร็ว ทั้งนี้ อธิบดีอัยการกรุงเทพใต้ ระบุว่า คดีการโอนหุ้นมีสำนวนมาก และคณะทำงานอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ต้องใช้เวลาตรวจสอบอย่างละเอียด
+++ที่สหรัฐฯ เกิดเหตุยิงกันสองจุดใกล้กันที่ฟลอริด้า ตำรวจกำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการคาดว่าทั้งสองจุดน่าจะเชื่อมโยงกัน เหตุแรกคือ เหตุกราดยิงที่ถนนพาร์คเวย์หมายเลข 2550 คนร้ายกราดยิงใส่บ้านและรถยนต์คันหนึ่ง เป็นเหตุให้วัยรุ่นคนหนึ่งบาดเจ็บเล็กน้อยเนื่องจากถูกกระสุนเฉี่ยว ส่วนเหตุที่สองคือที่ถนนออร์ติส อเวนิว ด้านหน้าของไนท์คลับบลูบาร์แอนด์ กริลล์ ในเมืองฟอร์ตไมเยอร์ส เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 17 คน จุดนี้ตำรวจจับกุม 1 ใน 2 ผู้ต้องสงสัยดังกล่าว ตำรวจ จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คนสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุ
+++นางเด็บบี เวสเซอร์แมน ชุลต์ซ ประธานคณะกรรมการพรรคฯ(ดีเอ็นซี)ระบุในแถลงการณ์ว่าจะลาออกหลังการประชุมใหญ่ของพรรคสิ้นสุดลงปลายสัปดาห์นี้เนื่องจากไม่พอใจกรณีทีมงานของพรรค เผยแพร่อีเมลที่แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการพรรค มีความลำเอียงต่อสว.เบอร์นี แซนเดอร์ส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกคนหนึ่ง และช่วยเหลือรณรงค์หาเสียงของตัวเก็งคือนางฮิลลารี คลินตัน มากกว่าสว.แซนเดอร์ส ในช่วงการหยั่งเสียงเลือกตั้งขั้นต้นที่ทั้งสองฝ่ายแข่งขันอย่างสูสี
+++หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ของมาเลเซีย รายงานอ้างตำรวจดูแลชายฝั่งของมาเลเซียว่า ทีมกู้ภัยพบศพผู้โดยสาร 14 ศพ หลังเรือลำหนึ่งอับปางนอกชายฝั่งรัฐยะโฮร์ทางภาคใต้ของประเทศเมื่อคืนวันเสาร์ อีก 12 คนสูญหาย ก่อนหน้านี้เรือดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสาร 62 คน ทั้งหมดเป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวอินโดนีเซียได้อับปางลงเนื่องจากคลื่นลมในทะเล ทีมกู้ภัยช่วยเหลือผู้โดยสาร 34 คน กำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต