ในวันนี้ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสศช. จัดประชุมประจำปีร่างแผนฯ ฉบับที่ 12 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมเปิดนิทรรศการประเทศไทยในฝันที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะเริ่มใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (ปี 2560-2564) ซึ่งจะแตกต่างจากแผนพัฒนาฯ ทั้ง 11 ฉบับที่ผ่านมา โดยจะประกอบไปด้วยมาตรการยุทธศาสตร์ 10 ด้านซึ่งเพิ่มเติมจากยุทธศาสตร์เดิมที่กำหนดไว้ 6 ด้าน ซึ่งจะเน้นไปที่การสร้างความสามารถในการแข่งขัน และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่อยู่ในรัฐธรรมนูญที่กำลังจะมีการลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้
เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการทำประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยขออย่าให้คนเพียงไม่กี่คนมาสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง ส่วนการเปิดพื้นที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญนั้น ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. เป็นผู้ดำเนินการอย่างเหมาะสม โดยเน้นว่าต้องไม่ใช่การเปิดเวทีเพื่อทะเลาะกัน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่าในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้จะมีการประชุมเกี่ยวกับการออกหนังสือตักเตือนกลุ่มผู้แจกจ่าย และเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ รวมถึงการโน้มน้าวจูงใจให้ประชาชนใช้สิทธิทางใดทางหนึ่ง
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ยังไม่พบความเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมายก่อนการลงเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 7 สิงหาคม แต่กำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่เฝ้าระวังการกระทำผิดในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
แต่ที่กาญจนบุรี พ.ต.อ.ทศพร ปทุมยา ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีการขโมยบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงประชามติที่ศาลาร่วมใจกลางหมู่บ้าน หมู่ 11 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งจากการตรวจสอบพบเบาะแสเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุแล้ว
เช่นเดียวกับที่ขอนแก่น พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.ชุมแพ เปิดเผยว่า เกิดเหตุที่ศาลาประชาคม ชุมชนใหม่สามัคคี เทศบาลเมืองชุมแพ คนร้ายฉีกเอกสารของทางราชการที่เกี่ยวข้องกับการลงประชามติแล้วนำมาเผาทำลาย จึงเป็นการตั้งใจก่อเหตุ
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 43/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติมครั้งที่ 4 จำนวน 13 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ส่วนการดำเนินคดีพระธัมมชโย ผู้ต้องหาคดีสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่าในเร็ว ๆ นี้จะหารือกับสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลางอีกครั้ง เพื่อเจรจาให้พระธัมมชโยรับทราบข้อกล่าวหา
ซึ่งนอกจากนี้แล้ว ยังมีกรณีศูนย์ปฏิบัติธรรมบุกรุกที่ดินผิดกฎหมายอีกหลายพื้นที่ ซึ่ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่ายังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล และตำรวจพร้อมดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมสนับสนุนกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ หากขอกำลังสนับสนุนเข้าตรวจค้นครั้งที่สอง
ในระหว่างวันที่ 21-22 กรกฎาคมนี้ พนักงานสอบสวนของดีเอสไอนัดสอบปากคำพระใกล้ชิดกับพระธัมมชโย 5 รูป ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินของวัด ซึ่งพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่าพระทั้ง 5 รูปขอเลื่อนนัดออกไปเป็นวันที่ 29 กรกฎาคม และวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวน ยอมให้เลื่อนการให้ปากคำได้อีกแค่ 1 ครั้งเท่านั้นเพราะต้องสรุปสำนวนเพิ่มเติม ส่งให้อัยการพิจารณาภายในวันที่ 11 สิงหาคมนี้
โดยในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ นายกรัฐมนตรี ร่วมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีกำหนดประชุมร่วมกับผู้บังคับหน่วยทหาร และให้กำลังใจในการทำงานที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมทั้งพบปะข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ด้วย
ตัวแทนกลุ่มมุสลิม 3 จังหวัดภาคใต้ เข้าร้องเรียนต่อนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีถูกบริษัทสายการบินแห่งหนึ่งยกเลิกสัญญาจ้าง โดยอ้างว่าเป็นบุคคลในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้อาจมีผลต่อความปลอดภัย หลังจากเพิ่งเซ็นสัญญากับบริษัทไปได้เพียง 2 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้บุคคลกลุ่มนี้ได้ไปฟ้องต่อศาลแรงงานแล้วเมื่อวานนี้
ส่วนกรณีคนร้ายส่งพัสดุซุกซ่อนวัตถุระเบิดฝากผ่านรถตู้โดยสารจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปส่งให้เจ้าหน้าที่ที่ฐานปฏิบัติการ อส.ยะหา ที่ ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบสวนพบว่าวัตถุนี้ มีการฝากมาตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมจากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เมื่อมาถึงคิวรถที่ ต.บาโงยซิแน ไม่มีผู้ไปรับของ และในวันที่ 6 กรกฎาคม คนดูแลคิวรถตู้บาโงยซิแนจึงให้เจ้าหน้าที่นำพัสดุไปส่งที่ฐาน อส.บาโงยซิแน แต่ อส.ที่รับพัสดุ สังเกตว่าพัสดุค่อนข้างมีน้ำหนัก แต่ไม่มีการจ่าหน้าถึงผู้ใด จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ฉก.อโณทัย เข้าตรวจสอบ ขณะที่ในการควบคุมตัวคนขับรถตู้ในฐานะผู้ต้องสงสัย ปรากฏว่าผู้ต้องสงสัยฆ่าตัวตายแล้ว ที่ศูนย์พิทักษ์สันติ (ศพส.) บุตรและญาติของผู้ตายไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด และไม่ประสงค์จะให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา ส่งศพผู้ตายไปผ่าชันสูตรที่ รพ.มอ. แต่อย่างใด
..