รมว.ยธ.ขอให้ทำทุกอย่างตามขั้น ยังไม่ต้องใช้ม.44 เป็นสิทธิที่พระขอเลื่อนให้ปากคำ

21 กรกฎาคม 2559, 20:35น.


หลังจากที่พระสงฆ์5รูปเลื่อนการเข้าให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีบทบาทในการบริหารและดูแลเรื่องเงินของวัดพระธรรมกาย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เป็นสิทธิการเลื่อนของเขาหรือไม่ หากเป็นสิทธิของเขาก็อย่าไปพะวงกับเรื่องพวกนี้ หากเลื่อนมาอีกก็ต้องออกหมายจับ จึงไม่อยากให้สื่อไปมองเรื่องสิทธิของบุคคลที่สื่อหยิบมาประเด็น อะไรที่เป็นสิทธิตามกฎหมายก็ปล่อยให้เขาทำไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เราดูพฤติกรรม ดูการให้ความร่วมมือที่จะอยู่ในกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ในส่วนตัวมองประเด็นดังกล่าวมากกว่า



กรณีดร.มโน เลาหวณิช อดีตพระวัดพระธรรมกาย กล่าวว่า ดีเอสไอเหลือหนทางเดียวในการดำเนินการพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย คือบุกเข้าจับกุมพระธัมมชโย หรือเสนอให้นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนมีข้อมูลหรือองค์ประกอบครบถ้วนแล้ว ต้องให้โอกาสกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้ทำงานตามที่เขามีข้อมูลอยู่ อย่าไปกดดัน ในส่วนตัว เข้าใจทั้งฝ่ายที่เห็นและไม่เห็นด้วย ที่ต้องการให้ใช้มาตรการเด็ดขาดในการดำเนินการ ได้บอกกับพนักงานสอบสวนว่าให้เขาประเมินสถานการณ์ไป อย่าทำอะไรแล้วให้เกิดการบานปลายขึ้นมา ขอให้ใช้กฎหมายปกติและทำตามขั้นตอนไปก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าไปขอหมายค้นอีกรอบเลย ควรทำเป็นขั้นๆไป โดยท้ายที่สุดแล้วหากไมได้จริงๆก็ค่อยว่ากันว่าจะใช้มาตรา 44 หรือไม่ มองว่ายังไม่ถึงจุดนั้น และยังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มาตรา 44 



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X