นักลงทุนตามผลประชุมECB-เบร็กซิท/สมคิด เปิดศูนย์ช่วยSME/สจล.เปิด12แผนพัฒนาริมฝั่งเจ้าพระยา

21 กรกฎาคม 2559, 09:05น.


+++ประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่เยอรมนี หารือเรื่องดอกเบี้ย หลังสหราชอาณาจักรลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป(อียู) หรือที่เรียกกันว่า เบร็กซิท นักลงทุนติดตามการประชุมอีซีบี ที่สำนักงานใหญ่ในนครแฟรงก์เฟิร์ต และต้องติดตามนโยบายการเงินในรอบนี้ด้วย



+++ประเด็นของสหราชอาณาจักร ทำให้รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า ทำให้โลกตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพมากขึ้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการเมือง คาดว่าจะส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจมหภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจยุโรป การปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 15 เดือนครั้งนี้ ไอเอ็มเอฟประเมินว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โลก จะขยายตัวเพียงร้อยละ 3.1 ในปีนี้ และร้อยละ 3.4 ในปี 2560  ไอเอ็มเอฟ ย้ำว่า  แม้สถานการณ์เศรษฐกิจของญี่ปุ่น และยุโรป จะพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้  ทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางส่วนก็ฟื้นตัวขึ้น แต่ภาวะไร้เสถียรภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จากเรื่องเบร็กซิท ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ตลาด และการลงทุน



+++การออกจากอียู จะส่งผลกระทบต่อสหราชอาณาจักรและชาติอียูมากสุด โดยไอเอ็มเอฟ ประเมินว่า เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรในปีนี้ จะขยายตัวราวร้อยละ 1.7 ลดลงร้อยละ0.2 จากการคาดการณ์ ก่อนหน้านี้ และคาดว่า ปีหน้า จะเติบโตเพียงร้อยละ1.3  ลดลงไปถึงร้อยละ 0.9         



+++เบร็กซิท ยังจะส่งผลกระทบไปถึงญี่ปุ่น ไอเอ็มเอฟ ลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสำหรับปีนี้ลงมาร้อยละ 0.2 มาอยู่ที่ร้อยละ 0.3 และคาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก จะลดลงเช่นกัน เพราะรัฐบาลเลื่อนการปรับขึ้นภาษีผู้บริโภค



+++ขณะที่ เศรษฐกิจขนาดใหญ่ 5 ชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม  ยังคงการประเมินสำหรับปีนี้ และปีหน้าไว้เท่าเดิมที่ร้อยละ 4.8 และร้อยละ 5.1 ไอเอ็มเอฟ ยังได้เรียกร้องให้ชาติเศรษฐกิจก้าวหน้า หลีกเลี่ยงการพึ่งพานโยบายการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจนมากขึ้น และขอให้หาทางใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการต่างๆ หากมีความตึงเครียด และก่อการร้าย ยังคงเป็นความเสี่ยงอย่างมาก ต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจหลายชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลาง



+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดศูนย์ช่วยเหลือ SME (Rescue Center) ที่อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม



+++ธนาคารออมสินลงนามกับสถาบันการเงิน 18 แห่ง ในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพื่อปรับเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพผลิต สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วงเงินรวม 3 หมื่นล้านบาท



+++ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ ปิดที่ 44.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ ปิดที่ 47.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมัน ไม่อาจจะเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้ เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่า และปัจจัยนี้เองที่ทำให้ทองคำในวันพุธ ปิดลบแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 13.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,319.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยเอสแอนด์พี500และดาวโจนส์ ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ จากแรงหนุนของไมโครซอฟต์ ที่ส่งสัญญาณว่าผลประกอบการของบริษัทต่างๆในสหรัฐฯอาจไม่แย่อย่างที่กังวล เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.24 จุด  ปิดที่ 2,173.02 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 53.56 จุด  ปิดที่ 5,089.93 จุด  ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 36.02 จุด  ปิด 18,595.03 จุด  หุ้นของไมโครซอฟต์พุ่งขึ้นร้อยละ 6.3



+++เรื่องกีฬา บ่ายวันนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมถ์ นำคณะเจ้าหน้าที่ และนักกีฬาไทย ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่31 ณ เมืองริโอ เดจาเนโร บราซิล เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีและรับโอวาท ที่ทำเนียบรัฐบาล



+++ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ นำคณะนักศึกษา และอาจารย์ ซึ่งชนะเลิศได้แชมป์โลกในการแข่งขันหุ่นยนต์ภัยชิงแชมป์โลก ณ เมืองไลพ์ซิก ประเทศเยอรมัน เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี alt="

ข่าวทั้งหมด

X