กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ชี้แจงกรณีการก่อการจลาจลในเรือนจำกลางปัตตานี ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2559 เวลาประมาณ 16.30น. ว่า สาเหตุเกิดจากการเข้มงวดกวดขันในการตรวจค้นโทรศัพท์มือถือและยาเสพติดรวมถึงการจัดระเบียบในเรือนจำ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและง่ายต่อการตรวจค้น ทำให้ผู้ต้องขังจำนวน 2 คน ไม่พอใจ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี จึงได้ขออนุญาตย้ายผู้ต้องขังอย่างเร่งด่วน ทำให้ผู้ต้องขัง2 คน ที่เป็นแกนนำรวบรวมผู้ต้องขังคนอื่นๆรวม 200 คน ก่อการจลาจล และเหตุการณ์ได้ลุกลามจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ของรัฐได้สนธิกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ได้ในที่สุด สรุปความเสียหาย เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ บาดเจ็บ 3 นาย ผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บ 7 คน (นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลปัตตานี 1 คน) ผู้ต้องขังเสียชีวิต 3 ศพ อาคารที่ทำการฝ่ายควบคุม อาคารเอนกประสงค์ อาคารฝ่ายการศึกษา เสียหาย 3 หลัง
กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดำเนินการตามขั้นตอน ได้จัดตั้งหน่วยบัญชาการทั้งในส่วนกลาง ที่ได้รับรายงานเพื่อประเมินสถานการณ์และสั่งการในการแก้ไข ไปยังหน่วยบัญชาการในพื้นที่ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานอื่นๆ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ทหาร ตำรวจ และพนักงานดับเพลิง รวมถึงเรือนจำกลางประธานเขต ร่วมแก้ปัญหา จากนั้นได้เจรจาต่อรองกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้ก่อเหตุเผาอาคารที่ทำการฝ่ายควบคุม ทำร้ายเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และผู้ต้องขังคนอื่นๆ รวมถึงได้ยื่นข้อเสนอ 11ข้อ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้แยกผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้องออกมาจากกลุ่มก่อเหตุ จนเมื่อเวลา 21.30 น. หลังการเจรจาไม่ประสบผล ผู้ก่อเหตุได้เผาประตูเรือนจำ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง จึงได้มอบพื้นที่ให้แก่ทหารและตำรวจในพื้นที่ดำเนินการ ใช้กำลังในการควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลา 23.00น. ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของกฎระเบียบข้อบังคับที่กำหนดไว้ และคำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ เรือนจำกลางปัตตานีได้ย้ายกลุ่มผู้ต้องขังที่ก่อเหตุไปยังเรือนจำต่างๆ โดยมีการจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลข่าวสาร ให้ญาติผู้ต้องขัง ตรวจสอบได้ที่หมายเลข 073-414254 หรือศูนย์ดำรงธรรมในพื้นที่
CR: ภาพ จ.อับดลรอหมาน ส