เหตุคนร้ายขับรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ขณะชมการแสดงพลุดอกไม้ไฟในวันชาติ มีคนเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายโรเบิร์ต แบร์ อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติหน่วยซีไอเอของสหรัฐฯว่าเหตุโจมตีฝรั่งเศสหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาลงมือก่อเหตุโดยกลุ่มคนที่รู้สึกว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์มีเสียงในสังคมเท่าที่ควร โดยเฉพาะชุมชนแอฟริกาเหนือ แม้ว่าจะมีสัญชาติฝรั่งเศส แต่พวกเขารู้สึกว่าสังคมปิดกั้นโอกาสในการพัฒนาชีวิตของพวกเขาในด้านต่างๆ นายแบร์เล่าถึงประสบการณ์ว่าเคยทำงานที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส ระบุว่าคนกลุ่มนี้แทบจะไม่ได้เข้าสู่ระบบการศึกษาเลย
เขากล่าวว่าสถานการณ์ยิ่งแย่หนักยิ่งขึ้นหลังเกิดเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อปลายปีก่อน เจ้าหน้าที่ความมั่นคงฝรั่งเศสเริ่มเพ่งเล็งขอตรวจบัตรประจำตัวคนกลุ่มนี้มากเป็นพิเศษ ถ้าพวกเขาเห็นคนหน้าตาคล้ายพวกอาหรับบนรถไฟและรถประจำทาง ที่สำคัญคือ ยิ่งรัฐบาลฝรั่งเศสใช้ปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อป้องกันและปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย ปรากฏว่าความเป็นคนหัวรุนแรงในกลุ่มพลเมืองฝรั่งเศสเชื้อสายแอฟริกาเหนือยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะลดน้อยลงไป
ด้านนายทอม ฟูเอนเตส อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการหน่วยเอฟบีไอของสหรัฐฯซึ่งเคยเป็นกรรมการบริหารขององค์กรตำรวจสากลกล่าวว่า ผู้ก่อการร้ายที่เกิดและโตในประเทศเป็นปัญหาใหญ่ในยุโรปในปัจจุบัน ระบุว่าผู้อพยพที่สืบทอดต่อมาถึงคนรุ่นที่ 3 อาศัยอยู่ในฝรั่งเศส มีพื้นเพจากโมร็อกโก แอลจีเรีย ลิเบีย ตูนีเซีย แต่แม้ว่าลูกหลานเหลนของคนกลุ่มนี้จะเกิดและเติบโตในฝรั่งเศส คนกลุ่มนี้ก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นชาวฝรั่งเศส
นอกจากนี้ ผู้อพยพกลุ่มนี้อาศัยอยู่ในวงจำกัดคือเฉพาะในชุมชนของพวกเขา คบหาสมาคมเฉพาะในกลุ่มของพวกเขาและไม่ได้รับการยอมรับจากประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ เขากล่าวว่าการล้างสมองให้กลุ่มคนลักษณะนี้เป็นคนหัวรุนแรง กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในสหรัฐฯเช่นเดียวกัน หลังเกิดเหตุรุนแรงในเมืองซาน เบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนียและเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดามีคนเสียชีวิตหลายศพเมื่อไม่นานมานี้
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP