+++เหตุคนร้ายขับรถบรรทุกพุ่งชนกลุ่มคนที่ออกมาดูพลุและดอกไม้ไฟขณะเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศส พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในทุกด่านที่มีการเดินทางเข้าออกประเทศไทย เข้มงวดกำกับดูแลคนเข้าออก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบการเฝ้าระวัง แต่ที่สำคัญเมื่อเกิดการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายเดียว แต่ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส ให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่รัฐ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ
+++พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลสั่งการให้ทุกหน่วยคำนึงถึงความมั่นคง เช่น สถานที่ราชการ ไม่ใช่แค่รักษาความปลอดภัย แต่ต้องคอยดูความผิดปกติต่างๆ กำชับเรื่องนี้มาโดยตลอด
+++ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เหตุรุนแรงที่ประเทศฝรั่งเศสในครั้งนี้ ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือขยายมายังประเทศไทย เพราะประเทศไทยไม่ใช่เป้าหมาย แต่ก็ไม่ประมาท
+++นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ของฝรั่งเศส ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันเสาร์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินว่า การก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามฝรั่งเศสอย่างยิ่งและจะตกอยู่ในความเสี่ยงต่อไปอีกนาน เป้าหมายของผู้ก่อการร้ายคือการสร้างความหวาดกลัว แต่ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่โดดเด่นและมีระบอบประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะไม่ยอมจำนนต่อความพยายามสั่นคลอนความมั่นคงของประเทศ
+++นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป (อียู) ในวันนี้ โดยมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยถึงประเด็นด้านเศรษฐกิจ หลังจากที่อังกฤษลงประชามติออกจากอียู เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นายอาเบะ นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานสภายุโรป และนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป จะหารือถึงแนวทางในการจำกัดขอบเขตของผลกระทบที่จะมีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
+++นอกจากนี้ คาดว่าในการหารือนอกรอบของการประชุมสุดยอดเอเชีย-ยุโรป ณ เมืองอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ผู้นำจากทั้งสองฝ่ายจะยืนยันเจตจำนงเรื่องการผลักดันข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างญี่ปุ่นและอียู ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว รวมทั้งความพยายามในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย ภายหลังจากที่เกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
+++ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ด้วยว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะกล่าวย้ำถึงจุดยืนของญี่ปุ่นเกี่ยวกับหลักนิติธรรมและแนวทางแก้ไขความขัดแย้งทางทะเลอย่างสันติ
+++เรื่องการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย พล.ร.อ.บงสุช สิงห์ณรงค์ ประธานอนุกรรมการปราบปรามการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ในภาคประมง ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย(ศปมผ.) กล่าวว่า ผู้แทนประเทศไทยหารือกับผู้แทนสหภาพยุโรป (อียู) ถึงการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ไร้การรายงานและไร้การควบคุม(ไอยูยู) ครั้งล่าสุด อียู แสดงความพอใจถึงความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาของไทย และได้ให้ไทยวิเคราะห์ถึงปัญหาและหาแนวทางแก้ไข ซึ่งเรื่องนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี แสดงให้เห็นว่าอียูเริ่มเชื่อมั่นในกระบวนการแก้ปัญหาไอยูยูของไทย โดยอียูจะประเมินไทยอีกครั้งช่วงต้นเดือน ม.ค. 2560 ทั้งนี้ไทยจะพูดคุยกับอียูอีกครั้งในเดือน ก.ย.คาดว่า ไทยมีโอกาสจะได้รับข่าวดี หลังจากนี้ไทยจะต้องเร่งออกกฎหมายและระเบียบต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาไอยูยูให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลให้มากยิ่งขึ้น
+++หลังจากที่ ร.ต.อ.พัฒน์พงศ์ ศิริเจริญนำ พนักงานสอบสวน กก.1 ป.ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 2 คดีดำ พ.1308/ 2559 ซึ่งมี นางมณตา หยกรัตนกาญ ผู้ต้องหาตามมาตรา 112 อีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 ก.ค.ทนายความของ นางมณตา ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขังครั้งนี้ อ้างว่า พนักงานสอบสวนแจ้งให้มารายงานตัว ที่กองปราบปราบในวันที่ 11 ก.ค. ฐานแจ้งความเท็จตามข้อกล่าวหาของ น.สประภาพรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย แต่เมื่อเข้าไปรายงานตัวก่อนในวันที่ 7 ก.ค. พนักงานสอบสวน กลับแจ้งข้อหาหาดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จึงเป็นการกระทำที่มิชอบ พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจยื่นคำร้องฝากขัง จึงขอให้ศาลมีคำสั่งยกคำร้องฝากขังครั้งนี้ของพนักงานสอบสวนด้วย ทั้งนี้ ช่วงบ่าย ศาลพิจารณาคำร้องทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว เห็นว่า คำร้องคัดค้านของผู้ต้องหาเป็นข้อต่อสู้ที่ต้องไปพิจารณากันในชั้นพิจารณา ในชั้นนี้จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเตรียมขอหมายจับฐานค้ามนุษย์เพิ่มเติมใน1-2 วันนี้
+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ได้อานิสงค์จากกระแสเงินไหลเข้าที่เป็นปัจจัยที่มากกว่าด้านพื้นฐานเศรษฐกิจ แม้ว่านักลงทุนจะผิดหวังจากการประชุมธนาคารกลางอังกฤษที่ไม่ได้มีการลดดอกเบี้ยหรือออกมาตรการคิวอีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ถือเป็นข่าวดีทางการเงินของอังกฤษและหากลดดอกเบี้ยอาจกดดันต่อค่าเงินปอนด์ให้ร่วงลงมากกว่านี้ ส่งผลให้ดัชนีปิดตลาดที่ 1,492.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.31จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 59,275.04 ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แข็งแกร่งเกินคาดของจีน ดัชนีเพิ่มขึ้น 111.96 จุด แตะที่ 16,497.85 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 98.19 จุด ปิดที่ 21,659.25 จุด
+++นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษเข้าพบนางนิโคลา สเตอร์เจียน มุขมนตรีแห่งสกอตแลนด์ เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตในอียู ทั้งนี้ นางสเตอร์เจียน กล่าวว่า สกอตแลนด์ยังคงต้องการหารือเกี่ยวกับทางเลือกในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งเธอเชื่อว่ากำลังได้รับผลกระทบจากการที่สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากอียู อย่างไรก็ตาม นางเมย์ได้ให้สัญญาก่อนการเข้าพบนางสเตอร์เจียนไว้แล้วว่า อังกฤษจะร่วมเจรจากับรัฐบาลสกอตแลนด์เพื่อหาทางออกในประเด็น Brexit และจะยืนอยู่ฝั่งเดียวกับชาวสกอตแลนด์ นางเมย์ กล่าวว่า การเยือนสกอตแลนด์ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการรักษาสกอตแลนด์ไว้