กรธ.-กกต.พบข้อความเป็นเท็จเอกสาร7เหตุผลไม่รับร่าง/ศาลปกครองไม่รับฟ้องคดีของไอลอว์/เงินสะพัดช่วงหยุดยาว

14 กรกฎาคม 2559, 20:16น.


+++การประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ซึ่งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาเอกสาร คลิปวีดีโอ หรือเอกสารอื่นๆ ตลอดจนเอกสาร จดหมาย ใบปลิวที่เข้าข่ายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ด้านการบริหารจัดการเลือกตั้ง มาเป็นตัวแทน กกต.ร่วมหารือเพื่อหาทางออกไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน  นายสมชัย กล่าวว่า มีการหารือ 2 แนวทาง คือ  แนวทางการดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญให้มากขึ้น เพื่อให้วันที่ 7 ส.ค.ประชาชนจะได้ไม่ไปลงประชามติแบบว่างเปล่า โดยต้องสร้างบรรยากาศและเปิดโอกาสให้มีการถกเถียง ภายใต้กรอบกติกาและไม่ผิดกฎหมาย โดยจะมีการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ 2 สัปดาห์ก่อนลงประชามติลงหนังสือพิมพ์ประจำวัน 3 ฉบับ คาดว่าจะทำให้หนังสือพิมพ์ดังกล่าวมียอดขายกว่า 1 ล้านเล่มถือเป็นช่องทางให้ประชาชนรับรู้เนื้อหาสาระแบบเต็มๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดรายการสาระร่างรัฐธรรมนูญเพื่อออกรายการทางโทรทัศน์ 10 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที และจะเชิญทั้ง 2 ฝ่ายที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ยังเคลือบแคลงมาพูดคุยกันถกเถียงกัน ส่วนหัวข้อจะเลือกที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการและประสานงาน



+++แนวทางที่ 2 คือการหารือเอกสารที่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ พบว่ามีความเห็นตรงกัน ที่มีเอกสารบิดเบือนและข้อความเป็นเท็จ คือกรณีพบจดหมายแจกจ่ายใน จ.ลำปาง และเชียงใหม่ กกต.และกรธ.เห็นตรงกันว่า มี 3 ประการที่บิดเบือนผิดจากร่างรัฐธรรมนูญ คือ 1. ประเด็นเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค 2.สิทธิการเรียนฟรี 12 ปี และ 3.เบี้ยผู้สูงอายุ โดย กกต.จะแจ้งกกต.จังหวัดและตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดีอาญา จึงขอแนะนำว่าจากนี้ใครที่มีจดหมายในมือ เมื่อทราบว่ามีความผิดแล้ว ก็ไม่ควรแจกจ่าย



+++สำหรับเอกสาร 7 เหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ที่จัดทำโดยขบวนการประชาธิปไตยใหม่(เอ็นดีเอ็ม) พบว่ามีข้อความที่อาจเป็นเท็จ ไม่สามารถแจกจ่ายในที่สาธารณะได้ จึงขอความร่วมมืออย่าแจกจ่าย ทั้งนี้การแจกเอกสารดังกล่าวก่อนหน้านี้จะไม่เอาเรื่อง ส่วนเอกสารความเห็นแย้งของกลุ่มนี้ส่วนตัวเห็นว่าอาจไม่ผิด แม้กรธ.จะไม่มีขอสรุป แต่ต้องรอการพิจารณาของอนุกรรมการในกรธ.ให้เสร็จก่อน



+++ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่ง ไม่รับฟ้องในคดีที่นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเตอร์เน็ตกฎหมายเพื่อประชาชน หรือ ไอลอว์ กับพวก รวม 13 คน ฟ้องกกต. และขอให้เพิกถอนประกาศกกต. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ 2559 และขอให้ระงับการออกอากาศรายการ  7 สิงหาประชามติร่วมใจ ศาลให้เหตุผลว่า ประกาศดังกล่าว เป็นเพียงคำแนะนำ และยกตัวอย่างวิธีการที่กกต.เห็นว่า ประชาชนสามารถดำเนินการ หรือ แสดงความคิดเห็นด้วยวิธีการอื่นที่ไม่ขัดต่อกฎหมายได้ อีกทั้ง ประกาศดังกล่าวไม่ได้กำหนดถึงผลหรือโทษของการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม และไม่ได้อ้างถึงบทบัญญัติที่กำหนดโทษทางอาญา และเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบถึงสถานะและผลของประกาศ



+++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ห้ามการนำเสนอข้อมูลข่าวสารหรือการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระก่อให้เกิด การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบ ต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และในกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เลขาธิการกสทช. เจ้าหน้าที่ของกสทช. หรือบุคคล ที่ได้รับมอบอำนาจจากบุคคลดังกล่าว ได้กระทำการไปตามอำนาจหน้าที่โดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เกินสมควรแก่เหตุหรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น เพื่อควบคุมดูแลมิให้มีการเสนอข้อมูลข่าวสาร หรือการออกอากาศรายการที่มีลักษณะดังกล่าว นับแต่วันที่ประกาศ มีผลใช้บังคับ ย่อมได้รับความคุ้มครองไม่ต้องรับผิด ทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัย แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ได้รับความเสียหาย ที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางราชการตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่



+++นายสุนทร ขันหิน หรือ โก้ อดีตคนขับรถของนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ นางไก่ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แล้ว เพื่อให้มาเป็นพยานในคดีที่นางไก่ ถูกแจ้งความในหลายข้อหา เดิมนายสุนทร ได้ประสานพระลูกวัดวัดนังคัลจันตรี ในจังหวัดปทุมธานี ว่าจะมาเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ในวันที่ 22 กรกฏาคม ล่าสุด ได้เข้าพบพล.ต.ท.ศานิตย์ เพื่อให้ข้อมูล โดยมีการพูดคุยซักถามรายละเอียดกันนาน 3 ชม. ซึ่งนายสุนทร ระบุว่า ในช่วงที่ขับรถให้กับนางไก่ ไม่เคยเห็นพฤติกรรมให้บุคคล หมอบคลานเข้าไปหา แต่เท่าที่รู้นางไก่ ชอบเล่นหวยครั้งละ 10-20ล้านบาท ส่วนที่ตัดสินใจลาออก จากการเป็นคนขับรถให้ เพราะทนไม่ไหวที่โดนต่อว่า และจากนี้ จะขอไม่ยุ่งกับเรื่องของนางไก่อีก



+++การใช้จ่ายในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง 5 วัน ระหว่างวันที่ 16-20 กรกฎาคม ตรงกับช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่า จะมีเงินสะพัด 5,773.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดรอบ 5 ปีนับจากที่มีการสำรวจในปี 2555 ในจำนวนนี้เป็นการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวอย่างเดียว 10,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 0.05 ของจีดีพี แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่นับเป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนว่าประชาชนมั่นใจว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวแล้วจึงจับจ่ายใช้สอยสูงขึ้น แต่ก็ยังมองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างช้าๆ หรือเป็นรูปตัวยู ช่วงแอ่งกระทะ และไตรมาส 3 เป็นต้นไป เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเด่นชัดขึ้น



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาด 1,488.69 จุด เพิ่มขึ้น 11.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 68,169.15 ล้านบาท  ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ต่างก็เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ส่วนหนึ่งตอบรับกระแสเงินทุนไหลเข้า โดยปัจจุบันมียอดซื้อสุทธิของต่างชาติแล้วประมาณ 50,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ออกมาตรการเพิ่ม ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่อย่างกลุ่มแบงก์, พลังงาน และสื่อสาร ต่างปรับตัวขึ้นมาได้



+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 238.69 จุด ปิดที่ 21,561.06 จุด



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 154.46 จุด 16,385.89 จุด  



+++ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา(แผนกคดีสิ่งแวดล้อม) คดีแพ่งหมายเลขดำ ที่ 106/2546 หมายเลขแดง ที่ 1565/2549 ระหว่างนายกำธร ศรีสุวรรณมาลา กับพวกรวม 8 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด จำเลยที่ 1 และนายคงศักดิ์ กลีบบัว จำเลยที่ 2 รวม 2 คน โดยฝ่ายโจทก์มี ว่าที่ ร.ต.สมชาย อามีน กรรมการสิ่งแวดล้อม ทนายความผู้ช่วยเหลือคดีจากสภาทนายความ นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา สภาทนายความ และกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์



+++นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลเห็นว่าการเจ็บป่วยของชาวบ้านทั้งหมดเกิดจากบริษัทตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และจำเลยที่ 2 คือ กรรมการผู้จัดการบริษัทที่เป็นผู้ควบคุมสารตะกั่ว และศาลยังเห็นว่าจำเลยมีเจตนาที่จะปล่อยสารตะกั่วลงในลำห้วยคลิตี้ ซึ่งนอกจากจำเลยจะต้องฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ให้กลับมาใช้ได้ดังเดิมแล้ว จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวบ้านทั้ง 8 ราย ทั้งค่าไม่สามารถใช้ชีวิตได้ ค่าเจ็บป่วย รวมทั้งค่ารักษาในอนาคตด้วย เป็นเงินจำนวน 20,200,000 บาท หลังจากที่ได้รับฟังคำพิพากษาแล้วทุกคนต่างก็มีความรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ซึ่งการฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ถือว่าสิ้นสุดคดีแล้ว

+++นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสหราชอาณาจักรเริ่มแต่งตั้งทีมรัฐมนตรีชุดใหม่ทันทีหลังได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของประเทศ ที่สร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่ายและนับว่าสร้างความฮือฮามากที่สุดคือ การแต่งตั้งนายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน แกนนำรณรงค์ให้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)(เบร็กซิต)ดำรงตำแหน่งรัฐต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ นายจอห์นสัน ประกาศถอนตัวออกจากการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังกลุ่มรณรงค์เบร็กซิตชนะการลงประชามติเมื่อเดือนก่อน การแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งนี้ย้ำถึงบทบาทสำคัญในเวทีโลกสำหรับนายจอห์นสัน ย้ำมาโดยตลอดว่าสหราชอาณาจักรจะควบคุมสถานการณ์ในประเทศได้ดีขึ้น หลังแยกตัวออกจากกลุ่มอียู



+++ส่วนตำแหน่งอื่นๆ นายฟิลิป แฮมมอนด์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งรณรงค์ให้สหราชอาณาจักรอยู่ร่วมกับกลุ่มอียู ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีคลัง นอกจากนี้ รัฐบาลจะตั้งหน่วยงานใหม่ที่จะรับผิดชอบการเจรจาเรื่องเบร็กซิตกับกลุ่มอียูโดยเฉพาะ โดยแต่งตั้งแกนนำเบร็กซิตอีกคนหนึ่งคือนายเดวิด เดวิส วัย 67 ปี เป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องนี้



+++แกนนำเบร็กซิตอีกหนึ่งคนคือนายเลียม ฟอกซ์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมและต่างประเทศ วัย 54 ปี ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านการค้าระหว่างประเทศและการทำข้อตกลงทางการค้ากับกลุ่มอียู



+++การตั้งรัฐมนตรีในลักษณะเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความประสงค์ของนางเมย์ ที่จะรักษาดุลยภาพระหว่างกลุ่มที่รณรงค์ให้อยู่ร่วมกับกลุ่มอียูต่อไปกับกลุ่มเบร็กซิต ลักษณะเด่นของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่คือ การแต่งตั้งฝ่ายรณรงค์เบร็กซิตเข้าดำรงตำแหน่งสำคัญๆเพื่อช่วยผลักดันให้การแยกตัวออกจากกลุ่มอียูเป็นผลสำเร็จในอนาคต



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X