นางฤชุกร สิริโยธิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า จากกรณีที่ นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าฯ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คัดค้านการโอนเงินด้วยระบบพร้อมเพย์เพราะเกรงว่าจะมีการกระทบข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ธปท.ได้เข้าพบนายบวรศักดิ์ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจว่าการโอนเงินระบบพร้อมเพย์ไม่ใช่การบังคับ แต่เป็นทางเลือกในการให้บริการโอนเงินที่มีอัตราธรรมเนียมถูกลง และเป็นระบบปิด ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ นอกจากนี้ธปท.มีพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 ดูแลอยู่ โดยเฉพาะมาตรา 157 ที่กำหนดว่า ห้ามผู้ใดที่ล่วงรู้ข้อมูลกิจการสถาบันการเงินเปิดเผยข้อมูล หากทำผิดมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบว่ามีผู้ใดละเมิดมาตราดังกล่าว โดยนายบวรศักดิ์ไม่ได้ติดใจในเรื่องดังกล่าวและเห็นว่าควรมีการผลักดันให้เกิดกฎหมายควบคุมดูแลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดนไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับ การเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนล่วงหน้าผูกบัญชีกับบริการพร้อมเพย์ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมพบว่า มีประชาชนลงทะเบียนทั้งสิ้น 9.7 ล้านคน แบ่งเป็นลงทะเบียนเลขบัตรประชาชนจำนวน 8.1 ล้าน คน และลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ 1.6 ล้านคน ซึ่งในวันที่ 15 กรกฎาคม นี้ จะมีการลงทะเบียนอย่างเป็นทางการและไม่มีกำหนดปิดลงทะเบียนโดยในช่วงเดือนกรฎาคมถึงตุลาคม นี้ เป็นช่วงของการทดสอบระบบซึ่งธปท.และธนาคารพาณิชย์ได้มีการประสานงานร่วมกันและมีการเตรียมแผนฉุกเฉิน ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย ก่อนที่เริ่มรับ-โอนเงินได้จริงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ย้ำว่าการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์มีกลไกในการรักษาความปลอดภัยเพราะต้องมีรหัสผ่านและธนาคารพาณิชย์จะมีรหัส OTP ส่ง SMS เพื่อยืนยันตัวตนของเจ้าของบัญชีก่อนการโอนเงินทุกครั้ง ดังนั้นขอให้ประชาชนรักษาข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน เพื่อความปลอดภัยในการโอนเงิน