ดัชนีความเชื่อมั่นตลาดทุน3เดือนข้างหน้าปรับเพิ่มขึ้น/ผตห.ขโมยเหรียญกษาปณ์ยังปฏิเสธ*

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้า ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.75 อยู่ที่ 104.46 หรืออยู่ในเกณฑ์ ทรงตัว ดร.คเณศ วังส์ไพจิตร ผู้อำนวยการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่าเป็นผลมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ยังมีปัจจัยฉุดจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ และความผันผวนของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรโซน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นไทยอย่างชัดเจน ส่วนหมวดอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ คือ บริการรับเหมาก่อสร้าง  โดยหากพิจารณารายกลุ่มนักลงทุนจะพบว่าดัชนีกลุ่มนักลงทุนรายบุคคลอยู่ที่ 106.35 ตามด้วยนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างชาติอยู่ที่ 100.00 ซึ่งที่ผ่านมา ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวอย่างรุนแรง แต่ดัชนีในเดือนที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าต่างชาติเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย ทำให้เม็ดเงินการลงทุนไหลเข้าจำนวนมาก โดยข้อมูลการซื้อขายในครึ่งปีแรกของปีนี้พบว่าสัดส่วนของมูลค่าซื้อสุทธินักลงทุนต่างชาติเพิ่มสูงถึงร้อยละ 26.33 หรือกว่า 35,600 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพบว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิถึง 15,700 ล้านบาท

ข่าวอาชญากรรม คดีลักทรัพย์เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากเซฟโรงกษาปณ์ 50 เหรียญ มูลค่า 1,500,000 บาท ซึ่งเป็นเหรียญทองคำแท้ ที่กรมธนารักษ์สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่าผู้ที่ครอบครองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกและรู้สึกว่าได้มาอย่างไม่ปกติ สามารถนำมามอบให้ตำรวจได้ทั่วประเทศ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และจะไม่ถูกดำเนินคดีฐานรับของโจร ขณะที่โรงกษาปณ์จะพิจารณาเรื่องการรักษาความปลอดภัยเก็บทรัพย์สินสำคัญของชาติให้เข้มงวดรัดกุมมากขึ้นต่อไป

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เผยว่า การตรวจสอบเบื้องต้นเป็นบุคคลภายใน ซึ่งในช่วงเย็น ศาลจังหวัดธัญบุรี อนุมัติหมายจับที่ 468/2559 ลงวันที่ 11 ก.ค. 2559 เพื่อจับกุมนายสุชาติ เติมต่อ อายุ 53 ปี นายช่างโรงกษาปณ์ (ลูกจ้างประจำ) 1 ในผู้ถือกุญแจตู้เซฟนิรภัยโรงกษาปณ์ ข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง ซึ่งก่อนหน้าเจ้าหน้าที่เชิญตัวมา สอบปากคำ แล้วให้การภาคเสธ แม้จะมีพยานบุคคล 3 คน ที่ให้การตรงกันว่า เห็นนายสุชาติเปิดเซฟนิรภัย ยกถาดทองออกไปจากห้องตีตรา 2 ถาด และทักท้วงให้นำมาคืน แต่เจ้าตัวกลับนิ่งเฉย

เมื่อวานนี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยและตรวจหลักฐานในคดีนายอาเธอร์ เซการา พรินเซพ หรืออาร์ตู อายุ 37 ปีสัญชาติสเปนเป็นจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลอบฝัง ซ่อน เร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย, กักขังหน่วงเหนี่ยว, ลักทรัพย์และข้อหาอื่น ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2559 ซึ่งมีผู้พบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ หลายจุดในแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งในแขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. และในเขตรับผิดชอบ สภ.เมืองนนทบุรี, สภ.ปากเกร็ด และ สภ.เมืองปทุมธานี ซึ่งหลังจากที่ศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังและสอบถามจำเลยว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ จำเลยได้แถลงต่อศาลขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าอาศัยอยู่ในพีจีคอนโดฯ แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ตาย

พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. นำกำลังตำรวจเข้าจับกุมนายเดวิด เจมส์ โรช อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาชาวแคนาดา พร้อมของกลางเงินสกุลต่างประเทศจำนวนมาก ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง เขตราชเทวี กทม. เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยนายเดวิดเป็นคนร้ายในคดีปล้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ในย่านชาวต่างชาติของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม แล้วหลบหนีมาประเทศไทยในวันเดียวกัน  แต่เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง

คดีนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางสุชาดา หรือนางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล หรือ ไก่ อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาคดีแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา, พยายามค้ามนุษย์ และแอบอ้างสถาบัน  เมื่อวานนี้ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พานายสมบัติ ขันหิน พี่ชายของนายสุนทร หรือโก้ ขันหิน อดีตคนขับรถของนางมณตา เข้าพบ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการผู้บัญชาการกองปราบปราม และพนักงานสอบสวน บก.ป. กรณีที่นายสุนทรหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ปี 2555 และเป็นไปตามที่ได้ประสานกับ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งนายสมบัติกล่าวว่า ติดต่อกับน้องชายครั้งล่าสุดคือเมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ประมาณปี 2554 ซึ่งน้องชายมาหาเพื่อบอกว่าได้ลาออกจากงานที่ทำกับนางมณตาแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย นอกจากนี้ยังมี น.ส.จันทนา หรือหนูนา คชคงไทย ที่เข้าให้ข้อมูลที่กองปราบปรามเช่นกัน เกี่ยวกับหนังสือเดินทางที่พบในห้องพักของนางมณตา ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชื่อของน.ส.จันทนา โดยยืนยันว่าขณะที่ทำงานกับนางมณตา เคยถูกพาไปทำหนังสือเดินทางจริง แต่เพราะยังเป็นเยาวชน ต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ก่อน เมื่อพ่อแม่ตนไม่ยินยอมก็ทำไม่ได้ จากนั้นนางมณตาได้ขอสำเนาบัตรประชาชนพ่อและแม่ของตน ซึ่งก็ให้ไป แต่ไม่ได้เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ไม่ทราบว่าถูกนำไปใช้ทำอะไร ส่วนที่ตนเดินทางไปประเทศลาวและกัมพูชา ก็จะใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวเท่านั้น

ส่วนคดีกลุ่มวัยรุ่น 7 คนรุมทำร้ายและฆ่าชายอายุ 36 ปีในท้องที่ สน.โชคชัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 เมื่อวานนี้ ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายวิเชียร ถนอมพิชัย รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการสั่งฟ้อง โดยระบุว่า พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้ส่งสำนวนคดีพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง นายพีระพล ยศพงษ์อนันต์ นายอัครเดช ทัศนะ นายมนต์มนัส แสงโพธิ์ นายจตุพร จันทร์โสภา นายเมฆ พลไกรสร นายอรินทร์ ยศพงษ์อนันต์ น.ส.ณัชนิชา ฤทธิ์ล้ำเลิศ ผู้ต้องหาที่ 1-7 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร และกล่าวหาว่า นายอัครเดช นายจตุพร นายเมฆ และนายอรินทร์ ผู้ต้องหาที่ 2, 4, 5, 6 ว่าร่วมกันบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย และขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ

ส่วนกรณีที่นางทองคำ ศรีจันทร์ มารดาของผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้กล่าวหาในคดีนี้ ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ขอให้แจ้งพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เพิ่มเติม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น คณะทำงานรองอธิบดีอัยการ และอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาพิจารณาพยานหลักฐานเห็นว่า ยังไม่เป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะการกระทำเป็นไปโดยปัจจุบันทันด่วน ไม่มีการคิดไตร่ตรองทบทวนแล้วจึงตกลงใจไปกระทำความผิด อัยการจึงงดแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะนี้อัยการฝ่ายคดีอาญา 9 ซึ่งรับผิดชอบสำนวนคดีกำลังร่างคำฟ้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จและยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดได้ภายในวันพุธที่ 13 กรกฎาคมนี้ ที่จะครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ดี หากยื่นฟ้องอัยการก็จะคัดค้านการให้ประกันตัว ด้วยเหตุผลว่าอาจจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ แถลงผลการจับกุมและตรวจยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ตามหมายค้นศาลทรัพย์สินฯ  จำนวน 3 จุด พบกางเกงยีนส์ ปลอมเครื่องหมายการค้า ลีวาย อดิดาส ฯลฯ ประมาณ 5,000 ชิ้น ในพื้นที่ จ.นนทบุรี

ตามที่มีการร้องเรียนต่อสำนักผู้ตรวจเงินแผ่นดิน เกี่ยวกับการสร้างทางลัดขึ้นภูทับเบิก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ลงพื้นที่ตรวจสอบ และเปิดเผยว่า การก่อสร้างไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานและบุกรุกพื้นที่ป่าของกรมป่าไม้จริง ขณะที่โครงการก่อสร้างในลักษณะนี้ไม่น่าจะใช้งบประมาณมากถึง 15 ล้าน ทั้งจะต้องรื้อและทำใหม่ให้ได้มาตรฐานทั้งหมด โดย สตง.จะมีการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ หากพบว่าผู้ใดกระทำผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนที่เป็นข้าราชการก็จะพิจารณาโทษทางวินัยต่อไปอีกด้วย

งานสเกตช์ภาพคนร้าย ฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 2 กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำโครงการบรรยาย "สเก็ตซ์ภาพ เตือนภัยให้สังเกตจดจำ" เพื่อให้เยาวชนและประชาชนกลุ่มเสี่ยง มีความระมัดระวังภัยที่อยู่ใกล้ตัวให้มากยิ่งขึ้น

ส่วนการปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ในพื้นที่นครบาล ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน-10 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมนักพนันทางโต๊ะบอล เป็นเจ้ามือได้ 18 คน ผู้เล่น 2,992 คน คนเดินโพย 23 คน และจับกุมนักพนันทายผลฟุตบอลทางอินเทอร์เน็ต เจ้ามือ 27 คน ผู้เล่น 77 คน รวมจับนักพนันได้ 3,137 คน ยึดของกลางเงินสด 285,430 บาท โพยพนันบอล 176 ใบ มูลค่าเงินในโพย 2,007,778 บาท ซึ่ง พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.น. ฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอล กล่าวว่า ผลการจับกุมค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากสามารถจับกุมนักพนันได้เพิ่มขึ้น

กรุงเทพมหานคร

นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม “คณะกรรมการดำเนินโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านการสาธารณสุข” ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)

 ..