รมว.วธ.เป็นห่วงศิลปินพื้นบ้าน หวังเยาวชนสืบทอด

11 กรกฎาคม 2559, 19:24น.


การประกวดดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน  ประจำปี 2559 ภายใต้ชื่องาน นาฏวาทยะศิลป์ ในแนวคิด  อนุรักษ์ สืบสาน วิถีพื้นบ้าน โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ซึ่งจัดประกวด 4 ประเภท ประกอบด้วย สะล้อซอซึง หมอลำ โนรา และลิเก โดยแต่ละประเภทจะมีคณะที่เข้ารอบ 3 คณะ ซึ่งคณะที่ชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พร้อมใบประกาศนียบัตรจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ตั้งแต่เช้าได้มีการจัดประกวดเป็นที่เรียบร้อย และประกาศผลในช่วงเย็น โดยผลการประกาศรางวัลชนะเลิศ ประเภท  สะล้อซอซึง ได้แก่คณะฆ้องแสนเสียง จังหวัดเชียงใหม่ ประเภทหมอลำ ได้แก่ คณะหนุ่มปริญญา สาวมหาลัย จังหวัดขอนแก่น ประเภทโนราได้แก่คณะพงษาเจริญศิลป์ จังหวัด นครศรีธรรมราช และประเภทลิเก ได้แก่ คณะลิเกเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง



นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันศิลปินพื้นบ้านในประเทศไทยอยู่ในภาวะลำบาก เนื่องจากได้รับความนิยมน้อยลง ทางกระทรวงวัฒนธรรมจึงส่งเสริมให้ศิลปินพื้นบ้านได้รับการยกย่องในสังคมไทย โดยการดำเนินกิจกรรม อาทิ การส่งเสริมให้มีการตั้งสมาคมศิลปินพื้นบ้านสาขาต่างๆ การตั้งศูนย์ฝึกอบรมศิลปินพื้นบ้าน และการประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์เพื่อให้ผู้สนใจจ้างการแสดงพื้นบ้าน สามารถสืบค้นได้จากอินเตอร์เน็ต ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานภาครัฐให้นึกถึงศิลปินพื้นบ้านเหล่านี้ เมื่อต้องการจะจัดการแสดงในกิจกรรมต่างๆ



สำหรับการจัดงานในวันนี้ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านโดยให้เยาวชนเป็นตัวแทนผู้สืบทอดศิลปะพื้นบ้าน ให้สังคมยุคใหม่ได้รับรู้ โดยหลังจากนี้จะให้ผู้เชี่ยวชาญ ศิลปินพื้นบ้าน เป็นผู้สั่งสอนเยาวชนเหล่านี้ต่อไป



ด้านนายปรินญาภัค สนธิ ตัวแทนผู้ชนะเลิศประเภทสะล้อ ซอ ซึง จากคณะฆ้องแสนเสียง กล่าวว่า วินาทีที่ได้ยินชื่อคณะของตัวเองได้รับรางวัลชนะเลิศ รู้สึกดีใจ เพราะการมาในวันนี้ไม่ใช่แค่มาประกวดเท่านั้น แต่มาเพื่อรักษาแชมป์ของปีที่แล้วไว้ด้วย และในฐานะที่เป็นเยาวชนรุ่นใหม่ก็อยากฝากให้เยาวชนรุ่นใหม่ หันกลับมาดูวัฒนธรรมพื้นบ้านของไทย โดยไม่อยากให้หลงลืม หรือดูถูกวัฒนธรรมที่เป็นรากฐานของไทย ซึ่งแม้บางคนจะชอบดนตรีสมัยใหม่ แต่ก็อยากให้ผสมผสานทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยไปด้วยกัน ซึ่งอาจจะไม่ใช่ในฐานะผู้แสดงก็ในฐานะผู้ชมหรือผู้ฟังก็ได้





สำหรับวงที่ชนะการประกวด รางวัลชนะเลิศได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพร้อมเกียรติบัตร และเงินรางวัล 60,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับถ้วยพร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท รองชนะเลิศอันดับสอง ได้รับถ้วยพร้อมเงินรางวัล 40,000 บาท และรางวัลชมเชย รางวัลละ 20,000 บาท

ข่าวทั้งหมด

X