นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงนามในคำสั่ง สนช.ที่106/2559 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 เรื่องลงโทษปลดออก นายคุณวุฒิ ตันตระกูล รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สังกัดสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากได้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการดินในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หลังมีพฤติกรรมที่แสดงถึงความไม่ตั้งใจ ไม่อุตสาหะ ไม่เอาใจใส่ และ ปล่อยปละละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้การขนย้ายดินออกจากพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ล่าช้า ทำให้การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามแผนงานหรือระยะเวลาอันสมควร ทำให้ต้องมีการขยายเวลาก่อสร้าง ต้องเช่าอาคาร ส่งผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานราชการ ที่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการละเว้นการกระทำหรือกระทำการอันเป็นเหตุให้เกิดความเสียกายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามกฎคณะกรรมการ ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา ( ก.ร.) ว่าด้วยวินัยข้าราชการรัฐสภาสามัญ พ.ศ. 2555 จึงสมควรได้รับโทษปลดออก ทั้งนี้ ผู้ถูกสั่งลงโทษมีสิทธิอุทธรต่อ ก.ร.ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งลงโทษ
ประธาน สนช. ยังได้ลงนามในคำสั่ง สนช.ที่107/2559 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 เรื่องลงโทษไล่ออก นายสมชาติ ธรรมศิริ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สังกัดสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้กระทำผิดวินัยร้ายแรง กรณีดำเนินการบริหารกิจการสโมสรรัฐสภา ในฐานะประธานกรรมการสโมสรรัฐสภาและผู้จัดการสโมสรรัฐสภา ชุดที่นายจเร พันธุ์เปรื่อง อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แต่งตั้ง กรณีอนุมัติการยืมเงิน นำไปจัดสร้างวัตถุมงคล(หลวงปู่ทวด) ในนามของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 3,450,578 บาท เอื้อประโยชน์กับนายจเร โดยไม่มีอำนาจและไม่มีกฎหมายใดรองรับให้นำเงินของสโมสรรัฐสภาไปให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรยืมได้และปัจจุบันสโมสรรัฐสภายังไม่ได้รับเงินคืน 2,944,379 บาท และไม่ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากตอบแทนหากฝากเงินดังกล่าวกับธนาคาร ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามกฎ ก.ร. ว่าด้วยวินัยข้าราชการรัฐสภาสามัญ พ.ศ. 2555 จึงสมควรได้รับโทษไล่ออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ทั้งนี้ ผู้ถูกสั่งลงโทษมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.ร.ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง