*สรุปข่าว 19.35น*
+++หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)มีความห่วงใยว่าจะมีบางกลุ่มออกมาสร้างความปั่นป่วนช่วงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า จะขอความร่วมมือและสร้างความเข้าใจควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเหมาะสม ส่วนการทำงานของศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ของรัฐบาล เพื่อให้การบริหารจัดการการทำประชามติบรรลุผลเรียบร้อย ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าจะมีการสร้างความรุนแรงในช่วงการทำประชามติ ส่วนใหญ่เป็นการแสดงออกที่ไม่อยู่ในกรอบกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามสถานการณ์แต่ละพื้นที่
++++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต.และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)สามารถประชุมร่วมกันได้ เพื่อให้มีแนวทางทำงานร่วมกัน เนื่องจากแต่ละฝ่ายที่ลงพื้นที่พบปะประชาชนอาจเห็นปัญหาแตกต่างกัน หากได้คุยกันสักครั้งคงจะดีเพื่อจะทราบว่า 30 วันที่เหลือจะทำงานร่วมกันอย่างไรบ้าง เพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญได้มากขึ้น ที่ผ่านมามีเสียงว่าประชาชนยังไม่เข้าใจเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้รับร่างฯ ยังเข้าใจไม่ทั่วถึง ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า การแสดงความคิดเห็นต้องอยู่บนพื้นฐานไม่เท็จ ไม่หยาบคายและไม่ปลุกระดม ซึ่งเรื่องหยาบคาย อยู่ในวิสัยที่กกต.สามารถพิจารณาได้ แต่เรื่องบิดเบือนเป็นเท็จ กกต.ไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากกรธ.พิจารณาว่าเนื้อหาผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือไม่ ส่วนการปลุกระดม เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลสถานการณ์ได้
+++นายคำนูญ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ วิป สปท. เปิดเผย ผลการประชุมวันนี้ว่า ที่ประชุมมีมติให้นำเรื่องการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่จัดทำในนามของ สปท. มาให้ที่ประชุม วิป สปท. ให้ความเห็นชอบก่อนทุกครั้ง หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของนายองกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท. คนที่ 1 และกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง ยังเป็นมิตรและเป็นไปด้วยดี และขอปฏิเสธกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวนายอลงกรณ์ ออกจากรองประธาน สปท.
+++ การติดต่อเข้ามอบตัวครั้งล่าสุดของพระธัมมชโย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ กล่าวว่า พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้ติดต่อมายังดีเอสไอขอให้พนักงานสอบสวนเข้าหารือและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้ามอบตัวของพระธัมมชโย รวมถึงการวางหลักทรัพย์ประกันตัวและการปล่อยตัวชั่วคราวภายหลังการมอบตัว จึงมอบหมายให้พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมพ.ต.ท.พงศ์พร พราหณ์เสน่ห์ ผบ.สำนักคดีภาษีอากร ซึ่งเป็นชุดเจรจาเดิมเดินทางเข้าหารือกับฝ่ายสงฆ์ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ ที่วัดเขียนเขต ส่วนเงื่อนไขในเรื่องการให้ประกันตัวนั้น ดีเอสไอต้องชี้แจงให้รับทราบว่า เลยจุดนั้นไปแล้วเพราะคดีไม่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอแล้ว เมื่อได้ตัวผู้ต้องหาพนักงานสอบสวนจะต้องนำตัวส่งอัยการหรือศาลให้ใช้ดุลพินิจสั่งคดีว่าจะให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่
+++นางสาวดาลิน วัฒนานนทกุล อดีตลูกจ้างหญิงไก่ เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่สถานีตำรวจแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าถูกนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ หญิงไก่โทรศัพท์ข่มขู่ไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือในคดีที่ นางจันทนา คชคงไทย หรือหนูนา อดีตลูกจ้างที่แจ้งความเอาผิดหญิงไก่ฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งนางสาวดาลิน ก็เป็นผู้ที่เคยทำงานกับหญิงไก่ และเป็นผู้ชักชวนหนูนาให้ไปอยู่กับ หญิงไก่ ด้าน พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ภาคเหนือเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีหญิงไก่ และสอบข้อมูลจากผู้เสียหายคนแรกคือนางสาวกาญจนา กองลาภสุนทร รวมทั้งนางสาวดาลินด้วย โดยจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งเรื่องให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษต่อไป
+++ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน มิ.ย.59 พบปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 มาอยู่ที่ระดับ 71.6 ต่ำสุดในรอบ 25 เดือน นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.57 เนื่องจากผู้บริโภคกังวลกรณีอังกฤษลงประชามติออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป (BREXIT)
+++นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและแผนพลังงาน (กบง.) เห็นชอบให้ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินและดีเซล 30 สตางค์ต่อลิตร มีผลวันพรุ่งนี้ (8 ก.ค.) ส่งผลให้ราคาน้ำมันหน้าปั๊มไม่เปลี่ยนแปลง ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบ แต่เป็นผลดีคือ รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น 800 ล้านบาทต่อเดือน จาก 15,252 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 16,053 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รักษาสิ่งแวดล้อม ก่อสร้างและซ่อมบำรุงถนน และลดอุบัติเหตุจากการจราจร
+++นายสัตวแพทย์สรวิช ธานีโต รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่เเขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร หลังมีรายงานพบเด็กชายอายุ 12 ปี ป่วยด้วยโรคแท้งติดต่อ หรือโรคบรูเซลโลซีส ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เบื้องต้นนายสัตวแพทย์สรวิชและเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ได้เจาะเลือดแพะและหยอดวัคซีนทุกฟาร์มในพื้นที่แขวงหัวหมาก เพื่อค้นหาแพะที่ป่วยเป็นพาหะนำโรคแท้งติดต่อ หลังการเจาะเลือดแพะ จะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งอาการของโรคแท้งติดต่อจะทำให้ผู้ติดเชื้อดังกล่าวมีไข้ ถ้าเป็นผู้ชายจะมีอาการลูกอัณฑะโต ถ้าเป็นผู้หญิงจะส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ ถือเป็นโรคที่มีอันตรายพอสมควร ในกรณีที่มีแพะถูกตรวจพบว่ามีโรคแท้งติดต่อจะต้องแยกแพะออกจากฝูงและต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดแล้วปล่อยทิ้งไว้ 1 เดือน จึงจะนำสัตว์มาเลี้ยงใหม่ได้ ดังนั้น วิธีป้องกันดีที่สุดคือ ควรมีการตรวจโรคในสัตว์ทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันโรคติดต่อต่าง ๆ ในสัตว์เลี้ยง
+++บริษัทเทมาเส็ก โฮลดิงส์ กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ เปิดเผยวันนี้ว่า บริษัทประสบภาวะขาดทุนประจำปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์ทางการเงินเมื่อ 7 ปีก่อนนับจนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มูลค่าทรัพย์สินของบริษัททั่วโลกมีมูลค่า 242,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ลดลงร้อยละ 9 จากมูลค่าของทรัพย์สินเมื่อปีทีแล้วที่ 266,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นมูลค่าที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เทมาเส็ก ยังกล่าวว่า ผลกำไรสุทธิของบริษัทในช่วงปีที่ผ่านมาร่วงลงไปร้อยละ 43 ไปอยู่ที่ 8,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีนหลังรัฐบาลประกาศลดค่าเงินหยวน ส่วนสถานการณ์ในปีนี้ยังคงไม่สดใสเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวทางขยายตัวในระดับปานกลางในขณะที่จีนยังคงขยายตัวช้าลง ส่วนเศรษฐกิจยุโรปก็เกิดสะดุดจากการที่อังกฤษลงประชามติถอนตัวออจากสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,456.72 จุด เพิ่มขึ้น 4.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 65,976.75 ล้านบาท ดัชนีแตะสูงสุดที่ระดับ 1,464.10 จุด นับเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี และดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,455.67 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ รับรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายเฟด (FOMC) เห็นพ้องให้ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเฟดจะได้รับข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่อังกฤษลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ดัชนีฮั่งเส็งทะยาน 211.63 จุด ที่ 20,706.92 จุด
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 102.75 จุด ที่ 15,276.24 จุด
+++ทางการเกาหลีใต้แถลงแสดงความยินดีที่สหรัฐขึ้นบัญชีดำนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก โดยระบุว่าเท่ากับตอกย้ำถึงสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ แถลงการณ์ของสหรัฐระบุว่า นายคิม จอง อึนและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 10 คนถูกขึ้นบัญชีดำจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางในเกาหลีเหนือ ทั้งการลงโทษสังหารโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย การบังคับใช้แรงงานและทรมานในเรือนจำซึ่งยังเป็นที่คุมขังนักโทษการเมือง ทำให้เกาหลีเหนือจัดอยู่ในประเทศที่กดขี่ประชาชนมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
+++ตำรวจบังกลาเทศกล่าวว่า มีคนเสียชีวิต 3 ศพหลังมือปืน 2 คนพร้อมปืนและระเบิดกราดยิงใส่คนที่ด่านตรวจบริเวณทางเข้าไปยังสถานที่สวดมนต์แห่งหนึ่งของผู้แสวงบุญมุสลิมในโอกาสวันอีฎิ้ลฟิตริในเขตโชลาเกีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงธากาในวันนี้ ขณะเกิดเหตุมีผู้ร่วมพิธีสวดมนต์กว่า 3 แสนคน เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ ตำรวจตั้งข้อสังเกตุว่าผู้ก่อการร้ายสามารถจะโจมตีได้อย่างไม่แยกแยะ ไม่ว่าจะกลุ่มมุสลิมที่ปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามและรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชีค ฮาซินาที่มีนโยบายเสรีนิยมนายฮาซานัล ฮัก อินู รัฐมนตรีสารสนเทศบังกลาเทศ ยืนยันว่า ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ 1 คนและทำวิสามัญฯคนร้ายอีก 1 ศพ