*พ่อนรต.ยื่นอสส.เร่งคดีลูกเสียชีวิตจากโดดร่ม-ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย40ลบ.*

07 กรกฎาคม 2559, 14:46น.


คดีนักเรียนนายร้อยตำรวจชยากร พุทธชัยยงค์ หรือ น้องโยโย่ และนักเรียนนายร้อยตำรวจณัฐวุฒิ ติรสุวรรณสุข หรือน้องฟิวส์ เสียชีวิตจากการฝึกกระโดดร่มที่สนามโดดร่มที่สนามตุงคะเตชะ ในค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อปี 2557 ล่าสุด นายสาธร พุทธชัยยงค์ บิดาของน้องโยโย่ พร้อมด้วยนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด โดยมีพ.ต.อ. กู้เกียรติ เจริญบุญ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 สำนักงานการสอบสวน มาเป็นตัวแทนรับหนังสือ   นายอนันต์ชัย ระบุว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ เพื่อขอให้เร่งรัดคดี ภายหลังมีผู้ต้องหา ได้ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการจังหวัดเพชรบุรี ทำให้คดีเกิดความล่าช้า เป็นการชะลอการสั่งหรือไม่สั่งฟ้องของศาล โดยหลังจากยื่นหนังสือในวันนี้แล้วจะวางกรอบระยะเวลาไว้ 2 อาทิตย์ หลังจากนั้นจะทำหนังสือสอบถามความคืบหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้รับความชัดเจน ส่วนตัวแล้วมองว่าหากระยะเวลายืดเยื้อ มีผู้ต้องหายื่นหนังสือต่อความเป็นธรรม จะทำให้คดีทางแพ่งเกิดความล่าช้าตามไปด้วย เนื่องจากคดีทางแพ่ง จำเป็นต้องอาศัยผลการตัดสินของคดีอาญา เข้ามาร่วมด้วย หากยืดเยื้อแบบนี้คดีอาจจะล่าช้าไปถึง 10-15 ปี



สำหรับการเสียชีวิตของน้องโยโย่และน้องฟิวส์ มาจากการประมาทและการทุจริต ในการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะผลจากการตรวจสอบ พบว่า ลวดสลิงที่ใช้กับนักเรียนนายร้อยทั้งสอง ควรจะเป็นลวดสลิงที่มีราคา 90,000 บาท แต่กลับเป็นลวดสลิงใหม่ที่มีราคาเพียง 4,000 บาท แล้วลวดสลิงเก่าหายไปไหน ราคาส่วนต่างหายไปไหน ชีวิตของนักเรียนนายร้อยทั้งสอง ต้องมาขึ้นอยู่กับความประมาทและการทุจริตของผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม



บิดาของน้องโยโย่ เปิดเผยด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้  ได้เดินทางไปที่ศาลแพ่ง รัชดา เพื่อดำเนินคดีทางแพ่งกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้เสียหาย 4 ราย ได้แก่ ตัวเอง และอดีตภรรยา บิดาและมารดาของน้องฟิวส์ ได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 99 ล้านบาท แต่ได้ประนีประนอม ยอมความ เหลือประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งทางจำเลยได้ระบุว่าจะนำตัวเลขนี้เข้าสู่บอร์ดเพื่อพิจารณาต่อไป โดยศาลแพ่ง รัชดา จะนัดอีกครั้งในวันที่ 19 สิงหาคมนี้  โดยตลอดระยะเวลาหลังจากที่บุตรชายได้เสียชีวิต ได้รับเงินเยียวยาจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  250,000 บาท และ กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม 100,000 บาท ซึ่งเงินในส่วนดังกล่าวได้ใช้ในการจัดงานศพทั้งหมด และจนถึงเวลานี้ ยังไม่เคยได้รับเงินเยียวยาจากผู้ต้องหาเลย  ทั้งนี้ส่วนตัวแล้วมุ่งไปที่คดีอาญามากที่สุด เพราะความประมาท การทุจริต ของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้บุตรชายต้องเสียชีวิต จึงอยากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้เกิดกับบุตรของคนอื่นซ้ำอีก และอยากให้ผู้ที่ทำผิดได้รับโทษตามกฎหมายโดยเร็ว



ในคดีนี้ พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 11 คนในเดือนพฤศจิกายน 2557 ในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และส่งพนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี แต่พนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรีเห็นว่ายังมีผู้ต้องหาบางคน ได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงได้ส่งสำนวนคืนพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดชะอำ เพื่อส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ซึ่งต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 คณะกรรมการ ป.ป.ช. กลาง มีมติให้ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเพชรบุรี แจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 11 ราย ตามประมวล

ข่าวทั้งหมด

X