*กรมชลประทาน ทำขั้นบันไดสำรองน้ำเขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลมจ.ลำปาง*

กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามโครงการลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำวัง กับการบริหารจัดการน้ำสู่เสถียรภาพของน้ำเพื่อการเกษตร โดยในวันนี้ได้เดินทางมาที่จังหวัดลำปาง ติดตามการบริหารจัดการลุ่มน้ำวัง เขื่อนกิ่วลมและเขื่อนกิ่วคอหมา นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำวังว่า แม่น้ำวังเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำแคบและเรียวยาว ที่มีลำน้ำขนาดใหญ่ไหลลงมา 2 สาย คือน้ำแม่ตุ๋ย และน้ำแม่จาง ซึ่งเมื่อมีฝนตกลงมาจะทำให้น้ำไหลอย่างรวดเร็ว แต่สามารถกักเก็บน้ำได้เพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำทำให้บางพื้นที่ขาดแคลนน้ำ ขณะเดียวกันบางพื้นที่ตอนล่างของลุ่มน้ำก็ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ดังนั้นกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงมีแนวคิดในการบริหารจัดการน้ำระหว่างเขื่อนกิ่วคอหมา และ เขื่อนกิ่วลม โดยพัฒนาแหล่งเก็บน้ำเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นทำเป็นขั้นบันได้เพื่อกักเก็บน้ำตอนบน  ขณะเดียวกันก็หาทางผันน้ำออกเช่นการทำแก้มลิงในลุ่มน้ำวังตอนล่างเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอีกด้วย

นอกจากนี้ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้เสนอแนวคิดการแก้ปัญหาน้ำแล้งและอุทกภัย โดยการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำยมลุ่มน้ำวัง แบบเบ็ดเสร็จ เช่นโครงการเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งเก็บน้ำเดิมที่มีอยู่ สร้างแหล่งเก็บน้ำขนาดเล็กและขนาดกลาง และการบริหารการทำเส้นทางผันน้ำออกจากพื่นที่เพื่อเพิ่มศักยภาพในการใช้น้ำเพื่อการเกษตร และการอุปโภค บริโภคอีกด้วย

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนกิ่วลมและเขื่อนกิ่วคอหมา นายไชยงค์ จงอาสาชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 กล่าวว่า สำหรับเขื่อนกิ่วคอหมาขณะนี้ มีปริมาณน้ำเหลือน้อยเพียงร้อยละ 22 และมีปริมาณน้ำใช้งานขณะนี้ 31 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุทั้งหมด 170 ล้านลูกบาศก์เมตร  แต่ได้มีการเตรียมแผนสำรองน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรให้กับพื้นที่รับน้ำ ในการเพาะปลูก ซึ่งมีความต้องการในการเตรียมเพาะปลูก 6 ล้านลูกบาศก์เมตร  คาดว่า เมื่อสิ้นสุดปรากฎการณ์เอลนีโญ่ จะมีฝนเพิ่มขึ้นทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มเติม ทำให้ปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูกและการอุปโภคบริโภค ส่วนเขื่อนกิ่วลม มีปริมาณน้ำ เหลือร้อยละ 39  โดยมีปริมาณน้ำใช้งานขณะนี้ 37 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณความจุ 106 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจำเป็นต้องวางแผนการส่งน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน โดยการกำหนดแผนการส่งน้ำ ของทั้งเขื่อนกิ่วลมและเขื่อนกิ่วคอหมา รวมกัน 64 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งคาดอีก 2 เดือนในช่วงฤดูฝนนี้ ปริมาณน้ำจะไหลเข้าเพิ่มขึ้นเพียงพอกับความต้องการใช้น้ำทั้งหมด 80 กว่าล้านลูกบาศก์เมตรในพื้นที่รับน้ำทางการเกษตรจำนวนกว่า 140,000 ไร่ซึ่งในส่วนเขื่อนกิ่วลม ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยการล่องเรือแพ ชมความสวยงามของลุ่มน้ำวัง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหยุดยาวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี