หลังมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอที่ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจตบศีรษะผู้ขับขี่รถจัดรยานยนต์ พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เชิญตัว นายอัทธพัทธิ์ กุลพิพัฒน์ธนา บิดาของ นายธิติพงศ์ กุลพิพัฒน์ธนา เข้าขี้แจงกับสื่อมวลชน นายอัทธพัทธิ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ร่วมกันตรวจสอบคลิปจากที่ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูคลิปวิดีโอแล้วเห็นว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีเจตนาทำเกินกว่าเหตุ จึงไม่ติดใจเอาความ พร้อมยอมรับว่า ลูกชายตนเองก็มีส่วนผิด เนื่องจากขณะเกิดเหตุ ลูกชายตนเองได้ขับรถเลี่ยงรถติดไปทางเลนขวา โดยไม่เห็นว่ามีตำรวจตั้งด่านอยู่ และขับผ่านตำรวจที่เรียกให้จอดจำนวน 2 นาย จนกระทั่งมาถึงตำรวจคนที่ 3 ที่ได้ยื่นมือออกไปกั้นให้หยุดรถ จึงทำให้ศรีษะไปถูกมือทำให้รถล้มลง จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นการตบศรีษะ ซึ่งหลังจากที่คลิปถูกแชร์ไปในโซเซียลแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญไปพูดคุย โดยต่างฝ่ายต่างขอโทษกัน พร้อมกันนี้ยังได้จับมือโชว์สื่อ เพื่อยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด ส่วนผู้ที่เผยแพร่คลิปจะต้องตรวจสอบเจตนา ว่ามีเจตนาสร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคมหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามตัวผู้ต้องหาที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ตามคดีค้างเก่า จับกุมนายปฏิเวธ หรือฟลุ๊ค สาระทัน อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันก่อพกพาอาวุธมีดไปในเมือง โดยไม่มีเหตุอันควร หลังใช้อาวุธมีดแทงนายนาราวินทร์ หรือโจ บุญแจ่ม ที่บริเวณลำคอจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าโรงเรียนวัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตภาษีเจริญ แล้วหลบหนี จึงทำการสืบสวนและติดตามตัวจนสามารถจับกุมนายฟลุ๊คได้ที่ห้องพักย่านเพชรเกษม77/4 ในชั้นควบคุมตัว ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าได้ไปกับเพื่อนอีก 3 คนได้ขี่จักรยานยนต์ไล่กวดและทำร้ายผู้ตาย จนเมื่อถึงจุดเกิดเหตุเพื่อนเป็นผู้ที่ใช้มีดแทงผู้เสียชีวิตบริเวณลำคอจนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป
ส่วนอีกคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคลโลได้ จับกุมตัวนายณัฎฐ์ วิงวอน อายุ 20 ปี ในข้อหาพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ได้พร้อมของกลาง คือ ปืนปากกา ขนาด .22 ภายในบรรจุกระสุน .22 จำนวน 1 นัดภายในกระเป๋ากางเกงฝั่งซ้าย ขณะร่วมกันตั้งด่านตรวจอาวุธเพื่อป้องกันเหตุนักเรียนตีกันอยู่นั้น ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเด็กนักเรียนรวมกลุ่มที่จะก่อเหตุทะเลาะวิวาท ที่บริเวณปากซอยรัชดา-ท่าพระ 4 เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพ โดยระบุว่าเมื่อ 2 วันก่อน มีเรื่องทะเลาวิวาทกับเพื่อนบริเวณตลาดพลู จึงได้ติดต่อซื้อปืนผ่านทางอินเตอร์เน็ต ในราคา 2,200 บาท และได้สินค้ามาภายในเวลา 3วันด้านตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผล ถึงเว็บไซด์ที่ขายอาวุธให้ผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป