ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 36/2559 เรื่องมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย โดยมีสาระสำคัญคือ ให้บุคคลมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่หรือส่งมอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการครอบครองและการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่เป้าหมาย รวมทั้งยึดคืนที่ดินที่ไม่ได้ทำประโยชน์ตามการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ก่อนหน้านี้ นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายของคสช. จะเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้มาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว (ม.44) เพื่อยึดคืนที่ดินในพื้นที่ของส.ป.ก. จากผู้มีอิทธิพลนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองท้องถิ่นที่ยึดครองที่ดินส.ป.ก.โดยไม่ถูกกฎหมาย และไม่มีเอกสารสิทธิ
จากการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา มีข้อท้วงติงไม่มาก ในเรื่องของการติดประกาศ เดิมส.ป.ก.เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น ผู้ดำเนินการติดประกาศ แต่เมื่อหารือคณะกรรมการกฤษฎีกา ทางผู้ว่าฯเสนอมาให้ส.ป.ก.เป็นคนติดประกาศ เมื่อมีข้อท้วงติงในเรื่องของวิธีการปฏิบัติจึงหารือกับฝ่ายกฎหมายของคสช. สรุปว่าในเรื่องของการติดประกาศส.ป.ก.อาจจะต้องเป็นคนติดประกาศ แต่ท้องถิ่นคือผู้ว่าฯอาจ ต้องช่วยในการดูแลประกาศ เพื่อไม่ให้มีการทำลาย ให้ประกาศที่ตามระเบียบต้องติดไว้ 30 วันตามกำหนด
ผู้ที่ครอบครองที่ดินส.ป.ก.ในบริเวณที่ประกาศไว้จะต้องมารายงานตัวเพื่อแสดงหลักและเอกสารสิทธิ ณ สำนักงานส.ป.ก.ประจำจังหวัด หากไม่มาแสดงภายใน 30 วัน หรือหากเจ้าหน้าที่ส.ป.ก.พิสูจน์ได้ว่าเอกสารสิทธิดังกล่าวไม่ถูกต้อง จะให้เวลาผู้ถือครองรื้อถอนภายในประมาณ 45 วัน หากไม่ดำเนินการทางส.ป.ก.จะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่เพื่อเข้ามาช่วยรื้อถอน สำหรับพื้นที่ส.ป.ก.มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องประกาศใช้มาตรการ 44 นั้น ประกอบด้วย 1.ที่ดินของผู้ถือครองเกินกว่า 500 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ใน 25 จังหวัด อาทิ 422 แปลง จำนวน 426,371 ไร่ 2.ที่ดินที่ศาลได้พิพากษาถึงที่สุดและสั่งให้บังคับคดีแล้ว ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด และ 3.ที่ดินส.ป.ก.ที่ขายให้กับบุคคลอื่นเกินกว่า 100 ไร่ ที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่ดิน ที่ถือครองโดยนายทุนและผู้มีอำนาจในท้องถิ่น
คลิกอ่านต่อ :http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/150/26.PDF