ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของอิรักเปิดเผย ความคืบหน้าเหตุระเบิดสองครั้งในย่านการค้าระหว่างการเฉลิมฉลองเทศกาลรอมฎอน ในกรุงแบกแดด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 125 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 150 คน (bbc) ขณะที่กลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส อ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด
ผลการตรวจสอบพบว่า คนร้ายใช้รถบรรทุกแช่เย็นที่บรรทุกระเบิดเอาไว้เป็นจำนวนมาก และจุดชนวนระเบิดในย่านการค้าของเมืองคาร์ราดา ระหว่างที่ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้ออาหารในช่วงกลางคืนระหว่างเทศกาลรอมฎอน ที่จะสิ้นสุดลงในสัปดาห์หน้า ซึ่งในเวลาใกล้เคียงกัน ยังเกิดเหตุระเบิดที่ตลาดอัล-ชาบ ตอนเหนือของกรุงแบกแดด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย
ไอเอส ออกแถลงการณ์อ้างว่าลงมือโจมตีนองเลือดครั้งล่าสุดนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการด้านความมั่นคง และพุ่งเป้าชาวมุสลิมชีอะห์ ซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของอิรัก แต่ไอเอสถือว่าเป็นกลุ่มนอกรีต
ส่วนเหตุรุนแรงที่กรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ ซึ่งตัวประกันที่ถูกสังหารทั้ง 18 คนเป็นชาวต่างชาติประกอบไปด้วยชาว อิตาลี 9 คน ญี่ปุ่น 7 คน อินเดีย และอเมริกันชาติละ 1 คนซึ่งกระทรวงกิจการภายในบังกลาเทศ ยืนยันว่า คนร้ายที่ก่อเหตุคือสมาชิกกลุ่มเจเอ็มบี ซึ่งเป็นกลุ่มหัวรุนแรงภายในประเทศ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส นอกจากนี้ มือปืนทั้งหมดยังมาจากครอบครัวที่มีฐานะดี และจบการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ไม่มีบุคคลใดที่มาจากโรงเรียนสอนศาสนา
สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐ หรือ ดีเอ็นไอ เปิดเผยรายงานระบุว่า สหรัฐใช้ปฏิบัติการโจมตีอากาศในสงครามกวาดล้างผู้ก่อการร้ายนอกพื้นที่สงครามในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถานช่วงปี 2552-2558 จำนวนทั้งสิ้น 473 ครั้ง เป็นเหตุให้มีพลเรือนเสียชีวิตระหว่าง 64-116 คน และสังหารนักรบของกลุ่มหัวรุนแรง 2,372-2,581 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน แต่ก็มีการใช้เครื่องบินรบและขีปนาวุธเช่นกัน ในการโจมตีเป้าหมายในปากีสถาน เยเมน และอีกหลายประเทศในแอฟริกา
สหภาพเสรีภาพพลเรือนอเมริกา หรือ เอซีแอลยู ระบุว่า ตัวเลขของรัฐบาล ต่ำกว่าที่องค์กรอิสระประเมินไว้ที่ระหว่าง 200-1,000 คน ทั้งถามว่า การใช้อาวุธชนิดนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวว่า ทางการอิหร่านจะไม่มีวันร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับปฏิบัติการใด ๆ ในสงครามกลางเมืองซีเรีย ตลอดจนความขัดแย้งอื่นในภูมิภาค เนื่องจากเป้าหมายของสหรัฐ คือลดอิทธิพลของอิหร่าน
ทางการจีนแถลงว่า จะจัดการซ้อมรบรอบหมู่เกาะพาราเซล ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ ระหว่างวันที่ 5 ถึง 11 กรกฎาคมนี้ หรือก่อนที่ศาลอนุญาโตตุลาการถาวรในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์มีคำตัดสินกรณีพิพาทอาณาเขตที่ฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องจีนในวันที่ 12 กรกฎาคม โดยจีนจัดการซ้อมรบในทะเลจีนใต้เป็นระยะ และให้เกิดการอ้างสิทธิทับซ้อนกับเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน
ประชาชนในกรุงลอนดอนราว 40,000 คนร่วมเดินขบวนจากสวนสาธารณะไฮด์ปาร์กไปยังอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นการเดินขบวนเพื่อยุโรป เรียกร้องการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียูต่อไป แม้ผลการลงประชามติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนจะชี้ว่า ประชาชนในสหราชอาณาจักรหรือยูเค จำนวนร้อยละ 52 ต้องการให้ประเทศออกจากกลุ่มอียู โดยเห็นว่าการออกจากกลุ่มทำให้สูญเสียสิทธิในตลาดเดียวของอียู ที่จะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายแรงงานในอนาคต
ส่วนนางนิโคลา สเตอร์เจียน มุขมนตรีแคว้นสกอตแลนด์ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยูเค รับรองสถานะผู้อยู่อาศัยถาวรให้กับพลเมืองของประเทศสมาชิกอียูราว 173,000 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในสกอตแลนด์ด้วย
โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจชื่อดัง เผยแพร่งานวิจัยระบุว่าแนวโน้มดีลการเข้าซื้อและควบรวมกิจการในครึ่งปีหลังน่าจะลดลง เนื่องมาจากการที่ยูเคออกจากกลุ่มอียูสร้างความปั่นป่วน ให้กับเศรษฐกิจและตลาดเงินเงินทั่วโลก โดยมูลค่าธุรกิจที่ปรับลดลงหลายเท่าตัว รวมถึงเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงอาจทำให้ดีลการซื้อ และควบรวมกิจการ มีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับบริษัทที่มีฐานธุรกิจอยู่ยุโรป
นอกจากนี้ ยังทำให้ราคาหุ้นของบริษัทที่ทำเงินจากการให้คำปรึกษา ในการควบรวมกิจการปรับลดลง และโกลด์แมน แซคส์ลดคาดการณ์กำไรกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินปีนี้ลง หลังจากที่เห็นว่า มีความเสี่ยงในการ ทำธุรกิจเพิ่มขึ้น
เจ้าหน้าที่นิวซีแลนด์แถลงผลการยึดโคเคนครั้งใหญ่สุด น้ำหนัก 35 กก. มูลค่า 14 ล้านเหรียญนิวซีแลนด์ หรือราว 350 ล้านบาท ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในหัวม้าฝังเพชรพลอยประดับฝาหลังถูกขนมาทางเครื่องบินจากเม็กซิโก ปลายทางเมืองโอ๊กแลนด์ โดยคนร้ายที่ถูกควบคุมตัวมีชาวเม็กซิกัน 2 คน และชาวอเมริกัน 1 คน
รัฐสภาอินโดนีเซียผ่านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมภาษี ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ ว่าจะทำให้ผู้หลบเลี่ยงภาษีรอดพ้นคุกตะราง แต่รัฐบาลอินโดนีเซียเชื่อว่า จะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐถึง 165 ล้านล้านรูเปียห์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 434,000 ล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากมีการเสนอเงื่อนไขการเก็บภาษีในระดับต่ำให้แก่คนรวยที่ไม่ยอมเสียภาษี ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า มหาเศรษฐีชาวอินโดนีเซียมักฝากเงินไว้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะสถาบันการเงินในสิงคโปร์
*-*