นสพ.โกลว์บอล นิว ไลท์ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของทางการเมียนมาร์ รายงานว่า กลุ่มชาวบ้านในเมืองผากัน รัฐคะฉิ่น ทางภาคเหนือของเมียนมาร์ ได้ก่อเหตุปล้มสดมภ์มัสยิดแห่งหนึ่ง โดยใช้ทั้งมีด และอาวุธชนิดอื่นๆ ก่อนใช้กิ่งไม้จุดไฟเผาอย่างราบคาบนอกเหนือความควบคุมของเจ้าหน้าที่ นับเป็นการก่อเหตุโจมตีมัสยิดเป็นครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ขณะที่กระแสต่อต้านมุสลิมขยายวงกว้างมากขึ้นในเมียนมาร์ ซึ่งถือเป็นปัญหาท้าทายรัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดยพรรคของนางอองซานซูจี โดยเหตุดังกล่าว ซึ่งมีต้นตอความขัดแย้งเกี่ยวกับการก่อสร้างมัสยิด เกิดขึ้นในขณะที่นางยังฮีลี ผู้เขียนรายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ในฐานะทูตพิเศษของสหประชาชาติ เพิ่งสิ้นสุดการเยือนเมียนมาร์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานการจับกุม
อย่างไรก็ตาม นางยังฮีลีได้เรียกร้องทางการเมียนมาร์ให้สอบสวนการทำลายมัสยิดที่เกิดขึ้นที่เมืองพะโคเมื่อปลายเดือนที่แล้วด้วย และเห็นว่า รัฐบาลเมียนมาร์ควรให้ความสำคัญลำดับแรกต่อการยุติการเลือกปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญาและชาวมุสลิมอื่นๆ ในรัฐยะไข่เป็นการเร่งด่วน นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ ยืนยันได้ว่า สถานการณ์ในเมียนมาร์ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ทั้งยังเห็นว่า รัฐบาลเมียนมาร์ไม่ควรจำกัดเสรีในการเคลื่อนย้ายของชาวโรฮิงญา ทั้งยังเห็นว่า ที่พักอาศัยของชาวโรฮิงญาในค่ายยังต้องปรับปรุงในเรื่องสุขอนามัย
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP