*ไอเอ็มเอฟระบุความไม่ชัดเจนหลังสหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากEUจะกระทบเศรษฐกิจทั่วโลก*

01 กรกฎาคม 2559, 16:20น.


นายเจอร์รี่ ไรซ์ โฆษกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ระบุว่าความไม่ชัดเจนของสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหลังการลงประชามติถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ของสหราชอาณาจักร(เบร็กซิต)จะมีผลกระทบในระยะสั้นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักร ยุโรปและประเทศอื่นๆทั่วโลก เขาแถลงเรื่องนี้ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ ระบุว่า ความไม่ชัดเจนที่เด่นชัดอย่างหนึ่งคือ สัมพันธ์ในอนาคตระหว่างสหราชอาณาจักรกับกลุ่มอียู และลักษณะสัมพันธ์แบบใหม่นั้นจะกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างไรบ้าง



หลังการลงประชามติถอนตัวออกจากกลุ่มอียูเมื่อสัปดาห์ก่อน สหราชอาณาจักรยังจะต้องทำการเจรจากับกลุ่มอียูเรื่องเงื่อนไขการถอนตัวออกจากกลุ่มและสัมพันธ์แบบใหม่กับกลุ่มอียู ยิ่งปล่อยให้ความที่ไม่แน่นอนยืดเยื้อไปนานๆ ความมั่นใจของผู้บริโภคและภาคธุรกิจก็ยิ่งลดลง จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอตามไปด้วย เขาตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ระดับกำหนดนโยบายของสหราชอาณาจักรและกลุ่มอียูจะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำให้การถอนตัวออกจากกลุ่มอียูดำเนินไปอย่างราบรื่นและสามารถจะคาดการณ์ทิศทางในอนาคตได้ และลดความผันผวนของตลาดการเงิน โดยไอเอ็มเอฟเห็นว่าคณะผู้กำหนดนโยบายของกลุ่มประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องพร้อมที่จะผลักดันนโยบายให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม และทันกับสถานการณ์ หากเห็นว่า ผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงิน ยิ่งปล่อยให้ยืดเยื้ออยู่นานวันก็ยิ่งจะกระทบต่อทิศทางของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น



ก่อนหน้านี้ไอเอมเอ็ฟเตือนก่อนการลงประชามติว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะลดลงร้อยละ 0.8 ในปีหน้า ถ้าหากออกจากกลุ่มอียู เพิ่มเติมว่าประเทศที่รับรู้ถึงผลกระทบจากเบร็กซิตของสหราชอาณาจักรคือ ประเทศในกลุ่มอียูที่มีสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนอย่างใกล้ชิดกับสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะไอร์แลนด์ ไซปรัส มอลตา เนเธอร์แลนด์และเบลเยียม/16.04 น.

ข่าวทั้งหมด

X