ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว หรือ นบข. นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงว่า ที่ประชุมได้มีมติปรับเปลี่ยนคณะอนุกรรมการติดตามสต๊อกข้าวที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยให้รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานคณะอนุกรรมการแทนรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการปฎิบัติหน้าที่ตามความเหมาะสมของกับการปฏิบัติงาน และเพิ่มตัวแทนของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท. รวมถึง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีสำหรับข้าวที่ผิดไปจากมาตรฐานกว่า 1,050 คดี ขณะนี้ส่งฟ้องไปแล้ว 650 คดี เหลือทบทวน 20 คดี และได้เร่งให้มีการตรวจสอบคดีที่ไม่ได้มีการสั่งฟ้อง 8 คดี โดยยืนยันว่า ตั้งแต่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามามีข้าวค้างสต๊อกกว่า 18.5 ล้านตัน แต่ขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 9.5 ล้านตัน และรัฐบาลยังคงดำเนินการระบายข้าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ไทยกำลังประสบปัญหาภัยแล้งถือเป็นโชคของไทยที่จะเพิ่มระยะเวลาในการระบายข้าวได้มากขึ้นในช่วงที่ข้าวล็อตใหม่ยังไม่ออกมา โดยตั้งเป้าที่จะระบายทั้งหมดแล้วเสร็จภายในช่วงกลางปีหน้า
ที่ประชุมยังได้พิจารณาแผนการผลิตข้าวครบวงจร ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เสนอโครงการ ความช่วยเหลือเกษตรกรหลังลดพื้นที่ปลูกข้าว โดยให้ใช้เพื่อการปศุสัตว์แทน พร้อมเสนอขยายระยะเวลาที่รัฐบาลจะสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการเกษตร ในโครงการนาแปลงใหญ่ โดยอุดหนุนสินเชื่อให้เกษตรกรจ่ายเพียง 0.01% ของอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด พร้อมขยายระยะเวลาโครงการจาก 1ปีเป็น 3 ปี นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบให้จัดตั้งสถาบันในนามมูลนิธิ เพื่อพัฒนาส่งเสริมทุรกรรมเพื่อการพาณิชย์ของสินค้าเกษตรภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ขณะเดียวกันที่ประชุมได้