*ผู้ว่ากฟผ.คนใหม่ เล็งเดินหน้าซื้อขายไฟฟ้าพหุภาคี ไทยลาว สิงคโปร์ มาเลเซีย*

การพัฒนาพลังงานไฟฟ้า  นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผย หลังเข้ารับตำแหน่ง ผู้ว่า กฟผ.ว่า จะเดินหน้าผลักดันการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนควบคู่กับโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน และจะนำพา กฟผ.ให้เป็นองค์กรที่มีคุณค่าต่อสังคมและประเทศชาติ ให้ได้รับการยอมรับและสนับสนุนอย่างยั่งยืนตลอดไป ทั้งนี้จะดำเนินการในเรื่องเร่งด่วนที่มีอยู่หลายประการ ได้แก่ การสานต่องานในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในประเทศเป็นอันดับแรก โดยจะเริ่มจากเสนอให้มีการทบทวนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ โดยจะเร่งพัฒนาพลังงานหมุนเวียนควบคู่ไปกับโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยจะเพิ่มให้ได้ร้อยละ 50 จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ ร้อยละ 37 เพราะถ่านหินถือเป็นเชื้อเพลิงหลักในปัจจุบันที่มีปริมาณสำรองอยู่มาก จึงสามารถช่วยควบคุมค่าไฟฟ้าไม่ให้สูงเกินไป โดยเฉพาะในภาคใต้ที่มีอัตราการเติบโตความต้องการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี โดยจะทำให้โรงไฟฟ้ากระบี่และเทพา เป็นที่ยอมรับของประชาชน โดยยึดแนวทาง " โรงไฟฟ้าอยู่ที่ใดสังคมอยู่ดีมีสุข " และประชาชนจะต้องได้รับการดูแลคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ส่วนการขับเคลื่อนพลังงานหมุนเวียนนั้น กฟผ.จะเสนอขอกระทรวงพลังงานให้เพิ่มสัดส่วนความรับผิดชอบของ กฟผ.ในแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกให้สูงขึ้นและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐที่ค้องการเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนให้มากขึ้น

 ด้านการจัดหาเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า จะเร่งศึกษาโครงการคลังสถานี แปลงก๊าซธรรมชาติเหลวลอยน้ำ เพื่อตอบโจทย์ด้านความมั่นคงและต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า ส่วนการเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าระหว่างประเทศ นอกจากจะซื้อขายกับประเทศเพื่อนบ้านในแบบทวิภาคีแล้ว จะมีการซื้อขายในแบบพหุภาคี ในโครงการนำร่องสำหรับการซื้อขายไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปยังสิงคโปร์ผ่านไทยและมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าจะมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2561

ส่วนเรื่องการลงทุนในต่างประเทศ ลักษณะรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี กฟผ.ได้ดำเนินโครงการผ่านบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด EGATi ซึ่งปัจตุบันทีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เช่น โครงการโรงไฟฟ้ากวางจิ ในเวียดนามและมายตง ในเมียนมา เป็นต้น ซึ่งปัจจุบัน กระทรวงพลังงานก็พร้อมสนับสนุนให้มีการแก้ไขผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อลดข้อจำกัดต่างๆ และจะมีการหาแนวทางเพิ่มทุนให้กับ EGATi ต่อไป  สำหรับ นายกรศิษฏ์ มีวาระการดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการ กฟผ.เป็นระยะเวลา 1 ปี 10 เดือน โดยถือเป็นผู้ว่าการกฟผ.คนที่ 13 และเป็นผู้ว่าการ กฟผ.ที่มาจากการสรรหาคนที่ 6