*ผู้ค้าย่านสยามสแควร์ เสนอขอยืดเวลาจัดระเบียบ-กทม.ย้ำให้เวลาถึง1ส.ค.2559*

29 มิถุนายน 2559, 17:14น.


การจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่ - แผงลอย บริเวณสยามสแควร์  พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)  เปิดเผยว่า การจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย เป็นภารกิจที่ กทม. ได้ดำเนินการตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย กทม.ได้จัดระเบียบผู้ค้ามาแล้วจำนวน 43 แห่ง เช่น ประตูน้ำ ปากคลองตลาด สะพานพุทธฯ โดยได้มีการผ่อนปรนเรื่องระยะเวลาให้กับผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบทุกแห่งอย่างเท่าเทียมกัน และมิได้มีการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มใดเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งทางเท้าบริเวณนี้ เป็นจุดที่ กทม.ไม่เคยอนุญาตให้มีการค้าขาย เพราะทางเท้าเป็นพื้นที่ที่ประชาชนทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งการการจัดระเบียบเป็นไปเพื่อความสวยงามของกทม. เพราะได้รับการร้องเรียนจากผู้ที่ใช้ทางเท้าในการสัญจรว่าไม่ได้รับความสะดวกสบาย เพราะมีการตั้งร้านขายของทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะมีการวางของลุกล้ำทางเท้า แต่กทม.ได้พยายามหาทางออกที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของผู้ค้าและเจ้าหน้าที่ ด้วยการขอความร่วมมือจากผู้ค้าทั้งหมดให้ย้ายที่ขายของจากสยามสแควร์ ไปที่บริเวณใต้ทางด่วนพงษ์พระราม ซึ่งเป็นที่ที่ กทม.จัดเตรียมเอาไว้ให้ แต่ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นผิวถนน และติดตั้งไฟส่องสว่าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ค้าที่จะย้ายไป พื้นที่นี้สามารถรองรับผู้ค้าได้ประมาณ 620 ราย และมีพื้นที่จอดรถได้อีก 60 คัน ปัจจุบัน สยามสแควร์ถือเป็นย่านใจกลางเมืองที่เป็นจุดเชื่อมต่อของรถโดยสารต่างๆ และมีการจราจรที่ติดขัดตลอดเวลา หากมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ทันเวลา อีกทั้งสยามสแควร์เป็นจุดที่ กทม.ได้เตรียมการจัดระเบียบไว้ก่อนหน้าที่จะมีการรื้อย้ายคลองโอ่งอ่างอีกด้วย



รองผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันว่า กทม.ไม่ได้ทอดทิ้งผู้ค้า แต่กำลังทำในสิ่งที่คาดว่าจะตกลงร่วมกันได้  โดยขอให้ผู้ค้า ปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่หากผู้ค้ายึดถือว่าทางเท้าเป็นจุดที่ค้าขายได้ และคิดว่าบริเวณนี้เป็นจุดที่ขายได้ดีที่สุด ก็จะไม่สามารถย้ายออกไปได้ และปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่มีทางออก   โดยการพูดคุยในวันนี้ ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า จะอนุญาตให้ผู้ค้าขายได้ถึงวันที่ 1 ส.ค.2559 เท่านั้น แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งหากการปรับปรุงแล้วเสร็จผู้ค้าทั้งหมดจะต้องย้ายไปบริเวณใต้ทางด่วนพงษ์พระรามทันที โดยจะไม่มีการผ่อนผันเพิ่มเติมอย่างแน่นอนจนกว่าจะมีการปรับปรุงที่ใหม่แล้วเสร็จ



 



ด้าน ร.ต.ต.ประพจน์ บูรผลิต อดีตรองสารวัตรสืบสวน สน.ปทุมวัน ปัจจุบันเกษียณราชการและเป็นค่าราชการบำนาญ ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ค้าในการหารือวันนี้ ได้ขอให้ กทม.ยืดระยะเวลาออกไปก่อน เพราะผู้ค้าส่วนใหญ่มีภาระและอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแล หากย้ายไปขายที่ใหม่แล้วไม่มีผู้ซื้อ ก็จะเกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีก จึงเสนอให้ลดจำนวนผู้ค้าลงเพื่อยังสามารถขายได้ในจุดเดิมที่เป็นทางเท้าด้านใน และไม่มีผลกระทบต่อประชาชนที่เดินสัญจร หรือรอรถประจำทางบริเวณนี้ พร้อมทั้งขอให้ยืดเวลาขายออกไปให้เริ่มขายได้ตั้งแต่ 20.00น. ซึ่งเวลานี้น่าจะไม่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่แล้ว ซึ่งข้อเสนอนี้ยอมรับว่าผู้ค้าได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนแต่ก็ยังดีกว่าที่จะไม่ได้ขายเลย จากข้อเสนอดังกล่าว รองผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ย้ำให้เวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. เท่านั้น



หลังเสร็จสิ้นการประชุมจะเปิดให้ผู้ค้า ลงทะเบียน ที่เขตราชเทวี เพื่อจองพื้นที่ในการค้าขายต่อไป สำหรับผู้ค้าที่ทำการค้าขายบริเวณสยามสแควร์ มีจำนวนทั้งหมด 554 ราย แต่มาเข้าร่วมประชุมในวันนี้เพียง 200 รายเท่านั้น โดยจะเริ่มขายตั้งแต่ เวลา 19.00-23.00 น.



ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร 

ข่าวทั้งหมด

X