การฟ้องคดีและเรียกค่าเสียหายจากการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดหรือ จีที 200 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ข้อสรุปว่า ไทยได้มีการจัดซื้อเครื่องมือรูปแบบดังกล่าวในปี 2548-2552 3 รุ่น คือเครื่องจีที 200 เอดีอี 651 และ อัลฟ่า 6 เป็น 3 ยี่ห้อ จาก 5 บริษัทที่มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งส่วนราชการที่จัดซื้อมีทั้งหมด 17 แห่ง โดยกรมสรรพาวุธทหารบกจัดซื้อมากที่สุด รวมจำนวน 1,400 เครื่อง มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างการรอขอคัดลอกคำฟ้องและคำตัดสินของศาลอังกฤษ ที่อัยการเป็นโจทย์ฟ้องคดีอาญาและแพ่ง ซึ่งไทยได้พยายามขอเป็นผู้เสียหายด้วย และอังกฤษได้ติดต่อมาขอข้อมูลจากฝ่ายไทยแล้ว ขณะที่ ตามกฎหมายไทย คดีนี้มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต เป็นเหตุให้ทางอัยการอังกฤษไม่ได้นำไทยร่วมในคดีด้วยเพราะมีโทษสูง ขณะเดียวกัน เมื่อได้คำสั่งฟ้องและคำตัดสินของศาลอังกฤษแล้ว จะต้องพิจารณาว่า เป็นการฟ้องรวมที่ผู้เสียหายสามารถเรียกค่าเสียหายได้เลยหรือไม่ และรายละเอียดของเครื่องทั้ง 3 ชนิด เป็นแบบเดียวกันหรือไม่ เกี่ยวข้องกับคดีในไทยหรือไม่ หรือต้องตั้งต้นฟ้องใหม่ ก่อนจะดำเนินการต่อได้
นอกจากนั้น คดีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้รับคดีเป็นพิเศษ ตั้งแต่ปี 2555 และสอบสวนแล้วเสร็จกว่า 10 คดีและส่งอัยการครบถ้วนแล้ว แต่อัยการยังไม่สั่งฟ้อง เพราะอยากให้ดีเอสไอสอบเพิ่มในบางประเด็น ซึ่งอัยการเห็นว่าควรแยกคดีแพ่งฟ้องก่อน และฟ้องไปแล้ว 1 คดี ที่ได้คำตัดสินแล้ว ให้รัฐเป็นฝ่ายชนะโดยสัญญาเป็นโมฆะ และต้องส่งเงินคืน 9 ล้านบาท แต่มีแนวโน้มว่าผู้เสียหายไม่สามารถจ่ายเงินคืนได้
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ