*พ.ต.ท.บรรยิน ปัดเตรียมหลบหนี ไม่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งโบรกเกอร์เอี่ยวคดีชูวงษ์*

ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัว พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน ในคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนง พ.ต.ท. บรรยิน เปิดเผยว่า  เมื่อวานเห็นสื่อนำเสนอข่าวหลายช่องทาง จึงอยากขอชี้แจง ใน 3 ประเด็น คือ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ซึ่งทางพี่สาวและภรรยา ได้ออกมาแถลงข่าว ที่ระบุว่ามีคนยิงปืนข่มขู่ ซึ่งในเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่ทราบ ว่าใครเป็นคนยิง และทำไมไม่ไปตรวจสอบ แจ้งความ หาคนทำ พูดเหมือนว่าตัวเองไปข่มขู่  ประเด็นที่สอง หลังจากวันที่ 26 มิ.ย.  พนักงานสอบสวนไปขอศาลจังหวัดพระโขนงออกหมายจับ โดยตัวเองไม่ทราบและไม่เคยได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน ให้มาแจ้งข้อหา น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญว่าทำไมสอบสวนมาครบ 1 ปี ถึงได้พยานหลักฐานไล่เลี่ยกันขนาดนี้ ดูแล้วน่าจะมีขบวนการที่ทำให้เกิดขึ้น  ส่วนการที่ตัวเองเดินทางไปที่เขาใหญ่ ในวันที่ 27 มิ.ย. นั้น ไปตีกอล์ฟกับเพื่อน ไปกันประมาณ 10 คน แต่สื่อนำเสนอประมาณว่า เจ้าหน้าที่กองปราบปรามไปพบตัวเองกับนางสาวอุรชา วชิรกุลฑล ผู้ต้องหาอีกหนึ่งคน เพียงสองคน จึงขอยืนยันว่าวันที่ไปเขาใหญ่ ตัวเองไม่ได้ไปกับนางสาวอุรชา สองต่อสอง และไม่ได้เตรียมหลบหนี

ส่วนยเมื่อวานนี้พนักงานสอบสวน จะสอบปากคำเพิ่มเติม ตัวเองก็ยืนยันว่าจะไปให้การในชั้นศาล กระบวนการก็น่าจะเสร็จตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แต่พนักงานสอบสวน ก็ยังจะสอบเพิ่มเติม จึงทำให้ฝากขังเมื่อวานไม่ทัน และเมื่อช่วงเช้านี้ก็ไม่ได้มีการสอบปากคำเพิ่มเติม  นอกจากนี้ยังขอฝากถึงพี่สาวและภรรยาของนายชูวงษ์ ที่ระบุว่า ตัวเองเป็นคนใจร้ายและทำไปเพื่อผลประโยชน์จำนวนเงิน 200 ล้าน ทั้งที่จริงแล้ว ตัวเองเป็นคนใส่ชื่อ ภรรยาของนายชูวงษ์ในโครงการที่จังหวัดนครสวรรค์ มูลค่ากว่าพันล้าน ในเรื่องนี้ไม่เคยมีใครออกมาชี้แจง ว่าตัวเองเป็นผู้ใส่ชื่อภรรยาของนายชูวงษ์ และอยากถามว่าถ้าตัวเองจะทำไปเพื่อผลประโยชน์เพียงแค่ 200 ล้านแล้วต้องเสียผลประโยชน์เป็นพันล้านจะทำไปเพื่ออะไร  ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์ของตนกับนางสาวอุรชา ก็ขอยืนยันว่ารู้จักกันในฐานะผู้ต้องหาร่วม ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน